โพลล่าสุดชี้ “แมร์เคล” เป็นนายกฯหญิงของเยอรมนีอีกสมัย

เอเจนซี - ผลการสำรวจตีพิมพ์ก่อนการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ (27) นี้ ชี้ว่า อังเกลา แมร์เคล มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่สองและก่อตั้งแกนนำรัฐบาลกลาง-ขวา

ผลการสำรวจของฟอร์ซาแก่นิตยสารสเติร์น ซึ่งน่าจะเป็นการสำรวจชิ้นสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ให้พรรคแนวคอนเซอร์เวทีฟของแมร์เคล มีคะแนนนำพรรคโซเชียลเดโมแครต (เอสพีดี)แนวกลางซ้าย 9 จุด ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าแมร์เคิลจะได้เป็นผู้นำเยอรมนีต่อไปอีก 4 ปี

อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจชี้ว่าแกนนำรัฐบาลกลาง-ขวา ยังได้รับคะแนนแผ่วบาง และจะเป็นกลุ่มเสียงข้างมากที่มีที่นั่งในสภาไม่ทิ้งห่างจากพรรคอื่นมาก โดยพรรคคริสเตียนเดโมแครต(ซีดียู) ของแมร์เคล ได้คะแนนร้อยละ 35 พรรคฟรีเดโมแครต (เอฟดีพี) ที่แมร์เคิลต้องการให้เป็นหุ้นส่วนร่วมรัฐบาลมากที่สุด ได้ร้อยละ 13 พรรคเอสพีดีได้ร้อยละ 26 ขณะที่พรรคกรีน และพรรคเลฟต์ปาร์ตี ได้ร้อยละ 11 และ 10 ตามลำดับ กระนั้น นักรัฐศาสตร์ ก็ชี้ว่า พรรคของแมร์เคิลจะได้เป็นแกนนำเสียงข้่างมากอยู่ดี แม้จะต้องแข่งขันกันอย่างหืดขึ้นคอก็ตาม

รายงานข่าวระบุว่า หากชนะการเลือกตั้ง รัฐบาลกลาง-ขวา จะใช้โอกาสนี้ลดภาษีรายได้ ภาษีบริษัท และภาษีมรดก ซึ่งอาจจะเริ่มต้นขึ้นในปี 2011 และยืดระยะเวลาใช้งานโรงงานนิวเคลียร์ต่างๆ ออกไป หลังจากมีกำหนดค่อยๆ ปิดในทศวรรษหน้า นอกจากนี้ ยังอาจแสดงท่าที่วิพากวิจารณ์ความพยายามของตุรกีในการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหนักยิ่งขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม นักรัฐศาสตร์ ชี้ว่า หากแมร์เคิลไม่สามารถจัดตั้งกลุ่มเสียงข้างมากได้ การจัดตั้ง “มหารัฐบาลผสม” ซึ่งเป็นการจัดตั้งรัฐบาลรวมกับพรรคคู่แข่งอย่างพรรคเอสพีดี ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เช่นเดียวกับที่เธอทำมาก่อนในการเลือกตั้งปี 2005 รัฐบาลชุดใหม่แนวกลาง-ขวานี้ จะมองหาโอกาสลดงบประมาณขาดดุลของประเทศ ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่สหภาพยุโรปจำกัดไว้มากกว่า 2 เท่าในปีหน้า

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความเห็นว่าการลดบัญชีขาดดุลอาจจะทำได้โดยการขึ้นภาษีมากกว่าลดค่าใช้จ่ายภายใต้มหารัฐบาลผสม หลังจากในปี 2007 แมร์เคลประกาศใช้มาตรการขึ้นภาษีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั่งแต่หลังสงครามเยอรมนี โดยเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 16 เป็นร้อยละ 19