เอเจนซี - นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง กล่าวว่า สิงคโปร์จะจำกัดการไหล่บ่าเข้ามาของแรงงานต่างชาติ ขณะที่สิงคโปร์กำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออัตราการเติบโตของประเทศ
อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ชะลอลงที่ร้อยละ 1.1 ในปี 2008 เทียบกับอัตราร้อยละ 8.2 ระหว่างปี 2004-2007 ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 5 ปีในประเทศที่พึงพาการส่งออกแห่งนี้
“เราจะไม่รับคนในระยะนี้” ลีกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยนันยางเทคโนโลจิคอล เมื่อวันอังคาร(15) “เราไม่สามารถคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะบูมเหมือนกับ 2-3 ปีก่อนต่อไป”
ลีเผยว่า มีแรงงานต่างชาติเข้ามาสิงคโปร์มากกว่า 100,000 คนในแต่ละปีช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู ทำให้มียอดแรงงานต่างชาติเกือบ 1 ล้านคน โดยผู้ที่พำนักอยู่ในสิงคโปร์ชั่วคราวและผู้ที่ไม่ใช่ชาวสิงคโปร์ที่พำนักอยู่ในสิงคโปร์เป็นการถาวรถือเป็นร้อยละ 35 ของประชากรทั้งหมด 4.84 ล้านคนของสิงคโปร์ ซึ่งลีระบุว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำให้สังคมสิงคโปร์ซึมซับและผสานกับผู้ที่เข้ามาอยู่ใหม่พวกนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสิงคโปร์ระบุว่า ในระยะยาวสิงคโปร์จะต้องการทั้งแรงงานต่างชาติและผู้อพยพ เพราะคนกลุ่มนี้จะทำงานที่คนสิงคโปร์ไม่ค่อยชอบทำ และยังจะช่วยกระตุ้นอัตราการเกิดในสิงคโปร์ด้วย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสิงคโปร์ได้ระบุว่าต้องการเพิ่มอัตราการเติบโตระยะยาวด้วยการเพิ่มประชากรร้อยละ 35 ใน 40-50 ปีข้างหน้าโดยการยอมรับการอพยพเข้ามา และในท้องถิ่นเกรงว่าจะทำให้สถานการณ์แย่งงานกันเลวร้ายมากยิ่งขึ้น ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจโลกรอบล่าสุด ทำให้สิงคโปร์คาดว่าจีดีพีในปีนี้จะหดตัวลงร้อยละ 4-6