เอเจนซี - แผนกชันสูตรศพของนครลอสแอนเจลิสวานนี้ (28) ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของไมเคิล แจ็กสัน ว่าเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากการใช้ยาเกินขนาด และเชื่อกันว่าในเร็ววันนี้ ดร.คอนราด เมอร์เรย์ แพทยประจำตัวของราชาเพลงป๊อบ จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนโดยประมาทหรือข้อหาอื่น
สำนักงานชันสูตรศพเขตลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ กล่าวในเอกสารทางราชการว่า ยา "โปรโพฟอล" ซึ่งเป็นยาสลบฤทธิ์รุนแรง ที่ใช้ในการผ่าตัด และ "โลราซีแพม" ยาระงับประสาทชนิดรุนแรง เป็นตัวยาชนิดสำคัญที่ทำให้แจ็กสันเสียชีวิตอย่างกระทันหันเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมาด้วยวัยเพียง 50 ปี
นอกจากนี้ ยังพบตัวยาชนิดอื่น ๆ ในร่างกายของแจ็กสันด้วย คือมิดาโซแลม, ไดอาเซแพม, ลิโดเคน และเอฟิดรีน
ตำรวจลอสแอนเจลิสแถลงว่า จะส่งเรื่องดังกล่าวถึงฝ่ายอัยการ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีข้อหาต่าง ๆ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการสอบสวน ก่อนหน้านั้น ในเอกสารหลายฉบับที่ยื่นต่อศ่าล ตำรวจกล่าวว่า เมอร์เรย์ ซึ่งอยู่กับแจ็กสันตอนที่เขาเสียชีวิต กำลังถูกสอบสวนในข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท
ราชาเพลงป๊อบรายนี้เสียชีวิตอย่างกระทันหันที่ลอสแอนเจลิส เนื่องจากอาการหัวใจวาย เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานคอนเสิร์ตการกลับมาอีกครั้งของแจ็คสัน ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้น 50 รอบในนครลอนดอน
นายแพทย์เมอร์เรย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจ ถูกจ้างให้มาดูแลแจ็กสัน ในระหว่างที่เขาเตรียมตัวแสดงคอนเสิร์ต
ก่อนหน้านั้น นายแพทย์รายนี้ยอมรับกับตำรวจว่า เขาให้ยาโปรโปฟอลแก่แจ็กสัน เพื่อช่วยให้ราชาเพลงป๊อบนอนหลับ