เอเอฟพี/เอเจนซี-วุฒิสมาชิกเอดเวิร์ด เคนเนดี แกนนำคนสำคัญในพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ด้วยโรคมะเร็งในสมองเมื่อช่วงดึกของวันอังคาร (25) ที่ผ่านมา สิริรวมอายุได้ 77 ปี เป็นการปิดฉากตำนานครอบครัวทรงอิทธิพลทางการเมืองที่สุดครอบครัวหนึ่งของอเมริกา ที่นอกจากตัวเขาแล้ว ยังมีพี่ชายทั้งสองของเขา คือ ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี และวุฒิสมาชิกรอเบิร์ต เคนเนดี ซึ่งต่างเสียชีวิตด้วยการถูกลอบสังหาร
เอ็ดเวิร์ด หรือ" เท็ด " มัวร์ เคนเนดี เป็นวุฒิสมาชิกมลรัฐแมสซาชูเซตส์ยาวนานถึง 9 สมัย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1962 จนเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งวุฒิสมาชิกนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เขาเสียชีวิต ณ บ้านพักของเขาที่เมืองไฮแอนนิส พอร์ต ในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ หลังจากเขาล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งในสมองมาตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
เท็ด เคนเนดี เป็นบุตรคนที่ 9 ของโจเซฟ พี. เคนเนดี ซีเนียร์ มหาเศรษฐีชื่อดังชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช แห่งนครบอสตัน พี่คนที่สองของเขาคืออดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ถูกลอบสังหารเมื่อปี 1963 เช่นเดียวกับพี่คนที่เจ็ด วุฒิสมาชิกรอเบิร์ต เอฟ เคนเนดีที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะรณรงค์หาเสียงในการเสนอตัวเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 1968
ตอนที่เขาเข้าเป็นวุฒิสมาชิกสมัยแรกเมื่อปี 1962 ในเก้าอี้ที่จอห์น เอฟ พี่ชายผู้เป็นประธานาธิบดีของเขาครองมาก่อน เขาถูกมองว่าเป็นเพียงมวยระดับไลต์เวฟที่อาศัยชื่อเสียงของตระกูลเคนเนดี ไต่เข้าสู่วงการเมือง
ทว่าระหว่างระยะเวลาร่วมๆ ครึ่งศตวรรษที่เขาอยู่ในวุฒิสภา เคนเนดีน้องนุชสุดท้องผู้นี้กลายเป็นที่รู้จักกันในฐานะหนึ่งในวุฒิสมาชิกผู้ทรงประสิทธิภาพที่สุดของวอชิงตัน โดยได้ผลักดันและต่อรองร่างกฎหมายต่างๆ มากมาย ด้วยความพรักพร้อมที่จะทำงานกับสมาชิกรัฐสภาและประธานาธิบดีจากทั้งสองพรรค กระทั่งเป็นพันธมิตรกับบุคคลที่ดูไม่น่าจะร่วมมือกันได้
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยึดมั่นอยู่กับหลักการแบบเสรีนิยม แม้จะถูกพวกสายกลางในพรรคที่รวมตัวกันเป็น "เดโมแครตใหม่" ตำหนิว่าเป็นแนวคิดที่เร่อร่าล้าสมัย และแม้จะกลายเป็นสายล่อฟ้าที่ก่อให้เกิดการปะทะแบบปะทุอารมณ์กับพวกอนุรักษนิยมอยู่เสมอ
เขามีบทบาทในการผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อพิทักษ์คุ้มสิทธิพลเมืองและสิทธิแรงงาน, ขยายระบบการดูแลรักษาสุขภาพ, ยกระดับโรงเรียน, เพิ่มเงินช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษา, และจำกัดการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์
ภายหลังจากรอเบิร์ต เคนเนดีเสียชีวิต "เท็ด"ได้รับการคาดหมายว่าในเวลาอีกไม่นานเขาจะต้องก้าวขึ้นไปเป็นตัวตายตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่แล้วในปี 1969 หญิงสาวคนหนึ่งจมน้ำตายขณะอยู่ในรถยนต์คันที่ "เท็ด" กำลังขับอยู่ แล้วรถวิ่งตกสะพานที่เกาะรีสอร์ตแห่งหนึ่งในแมสซาชูเซตส์ หลังจากที่ทั้งคู่สำเริงสำราญอยู่ที่งานปาร์ตี้ในคืนนั้น
ภาพลักษณ์ของ "เท็ด"ยิ่งเสียหายหนักเมื่อปรากฏในเวลาต่อมาว่าเขาไม่ได้แจ้งความเรื่องอุบัติเหตุคราวนั้นกับทางการ ต่อมาเขารับสารภาพว่าหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุและถูกตัดสินลงโทษรอลงอาญา
หลังจากความทะเยอทะยานที่จะเป็นประธานาธิบดีต้องพังทลายไป เขาก็หันมาอุทิศตนให้กับงานในวุฒิสภา และก็ทำงานได้อย่างโดดเด่น
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแถลงวานนี้ (26) ระบุว่ารู้สึก"หัวใจสลาย" เมื่อได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของวุฒิสมาชิกเคนเนดี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่ต่อสู้เพื่อสิทธิในด้านสาธารณสุขและปัญหาปากท้องของชาวอเมริกันตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านมา และถือเป็นวุฒิสมาชิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
ขณะที่วุฒิสมาชิกแฮร์รี รีด ส.ว.พรรคเดโมแครตที่เป็นผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา แถลงว่า วุฒิสมาชิกเคนเนดีถือเป็นบุคคลตัวอย่างที่อุทิศตัวเพื่อสังคมอเมริกัน และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักการเมืองสหรัฐฯ เพียงไม่กี่คนในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับนับถืออย่างกว้างขวาง จากทั้งสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
นักวิเคราะห์มองว่าการจากไปของเอดเวิร์ด เคนเนดี ในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการปฏิรูประบบประกันสุขภาพของสหรัฐฯ ในฐานะที่เขาเป็นผู้ผลักดันระดับแถวหน้า เพื่อให้ชาวอเมริกันทุกคนในประเทศได้รับการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึงมาโดยตลอด นับตั้งแต่ที่บุตรชายคนโตของเขาคือเอ็ดเวิร์ด เคนเนดี จูเนียร์ต้องสูญเสียขาข้างหนึ่งจากโรคมะเร็งขณะที่มีอายุเพียง 12 ปี เมื่อปี1973
วุฒิสมาชิกเคนเนดี เขียนบทความลงในนิตยสารข่าวชื่อดัง "นิวสวีค" ฉบับวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมาโดยระบุว่า เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่ต้องการจะยุติความอับยศของประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐฯ จากการเป็นประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ "เพียงแห่งเดียวของโลก" ที่ยังคงไม่มีระบบประกันสุขภาพอย่างทั่วถึงให้กับคนทั้งประเทศ
ด้านประธานาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญของพรรคเดโมแครต ออกมาแสดงความกังวลว่า การเสียชีวิตของเขาอาจทำให้ร่างกฎหมายเพื่อการปฏิรูประบบประกันสุขภาพของประธานาธิบดีโอบามาต้องสะดุดลง เนื่องจากวุฒิสมาชิกเคนเนดีถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการเจรจา และเป็นตัวกลางประสานความคิดเห็นที่แตกต่างระหว่างนักการเมืองทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในสภาคองเกรสมาโดยตลอด