เอเอฟพี - บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(18) แสดงความอาลัยต่อการจากไปของ คิมแด-จุง พร้อมยกย่องความพยายามอย่างไม่ลดละของอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายนี้ต่อการส่งเสริมสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี
“ผมรู้สึกเศร้าใจต่อการจากไปของอดีตประธานาธิบดีคิมแด-จุง แห่งเกาหลีใต้ แชมเปี้ยนผู้กล้าหาญแห่งประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน” โอบามา กล่าวในแถลงการณ์
“ประธานาธิบดีคิม เสี่ยงชีวิตเพื่อสร้างและเป็นผู้นำเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตั้งมั่นระบบประชาธิปไตยในเกาหลีใต้” แถลงการณ์ระบุ “เขาทำงานหนักรับใช้ประเทศ ความพยายามของเขาในการส่งเสริมสันติภาพคาบสมุทรเกาหลี และเสียสละตนเองเพื่อเสรีภาพถือว่าเป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นหลังและไม่ควรถูกลืมเลือน”
“ในนามของประชาชนชาวสหรัฐฯ ผมขอส่งความเสียใจไปยังครอบครัวของเขาและประชาชนชาวเกาหลีใต้ทุกคน” โอบามา กล่าวในแถลงการณ์
อดีตผู้นำเกาหลีใต้ วัย 83 ปี ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วเมื่อวันอังคาร(18) ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวหลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เซเวอแรนซ์ ในกรุงโซล จากภาวะปอดอักเสบ ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีคิม ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ระหว่างปี 1998-2003 สร้างชื่อในเวทีระหว่างประเทศด้วยการริเริ่มใช้ “นโยบายอาทิตย์สาดส่อง” เพื่อผูกมิตรกับเกาหลีเหนือ และผลักดันให้เกิดการเจรจาระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก จากการที่เขาพบหารือกับคิมจองอิล ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์เมื่อเดือนมิถุนายนปี2000 ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีเดียวกันจากความพยายามสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี
นอกจากนั้น อดีตผู้นำเกาหลีใต้ยังได้ชื่อว่า เป็นนักต่อสู้ทางการเมืองระดับแนวหน้าของประเทศ โดยเขาเคยถูกจำคุก ลักพาตัว ถูกลอบสังหาร ถูกตัดสินให้รับโทษประหารชีวิต และต้องลี้ภัยทางการเมืองจากจุดยืนในการต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารของเกาหลีใต้ ในสมัยประธานาธิบดี ปาร์คจุงฮี ในช่วงทศวรรษที่ 1970 และประธานาธิบดี ชุนดูฮวาน ในทศวรรษ 1980 มาแล้ว