เอเอฟพี - ศาลอินเดียตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ 3 มือระเบิดในเมืองมุมไบ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 53 รายในปี 2003 อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษต่อไป
ผู้พิพากษาศาลพิเศษต่อต้านการก่อการรายของอินเดีย ตัดสินแขวนคอ ฮานีฟ ซายิด และภรรยาของเขา ฟาห์มีดา ซายิด รวมทั้งอาชรัต อันซารี ในข้อหาฆาตกรรม และสมคบคิดกันก่อการร้าย จากการก่อเหตุระเบิดในย่านค้าอัญมณีในเมืองมุมไบ เมื่อ 6 ปีก่อน ขณะที่จำเลยทั้งหมดไม่ได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ออกมา เมื่อได้ยินคำพิพากษา
ศาลได้พิจารณาว่า ทั้งสามก่อเหตุระเบิดขึ้นเพื่อเป็นการแก้แค้นที่ชาวฮินดูทำรายชาวมุสลิม ระหว่างเกิดเหตุจลาจลในรัฐคุชราต ทางตะวันตกของอิเดีย เมื่อปี 2002 และพวกเขาทั้งสามก็อ้างว่าตัวเองเป็นสมาชิก “กองกำลังแก้แค้นของมุสลิมคุชราต” ด้วย
นอกจากนี้ อัยการยังระบุว่า พวกเขายังเป็นสมาชิกกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ลัชคาร์อีไตบาด้วย โดยกลุ่มอิสลามิสต์ลัชคาร์อีไตบานั้นยังถูกกล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมในเมืองมุมไปเมือปี่ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 166 คน
ทนายความของพวกเขาเผยว่า พวกเขาจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลต่อไป
ทนายความของฮานีฟ ซายิด กล่าวว่า ลูกความของเขาน่าจะถูกจำคุกตลอดชีวิตมากกว่า ทั้งนี้ เกิดการประหารในอินเดียน้อยมาก และโทษนี้ก็มักจะล่าช้าและประธานาธิบดีก็มักจะยอมให้ลดโทษลงให้ด้วย
ส่วนที่ปรึกษาของฟาห์มีดา ซายิด โต้แย้งโทษประหารชีวิต โดยระบุว่านางซายิดเป็นคนจนและไม่มีการศึกษา ซึ่งถูกสามีกดดันให้ก่ออาชญากรรมนอกหนือจากหน้าที่ของชาวมุสลิมและยังถูกใช้เป็นตัวอำพรางการกระทำของกลุ่มอิสลามิสต์นั้นด้วย
ด้านอัยการปฏิเสธคำโต้แย้งของฝ่ายจำเลย โดยกล่าวว่า โทษประหารคราวนี้จัดว่าอยู่ในกลุ่มที่เกิดขึ้นน้อยมากอยู่แล้ว และก็สมควรอย่างยิ่งที่ผู้พิพากษาจะสั่งประหารชีวิต เนื่องจากพวกเขาจงใจและวางแผนการก่อเหตุอย่างพิถิพิถันด้วยการใช้ระเบิดอานุภาพสูง ซึ่งได้สังหารหมู่ผู้คนบริสุทธิ์อย่างทารุณอย่างยิ่ง
คดีนี้เป็นคดีต่อต้านการก่อการร้ายคดีใหญ่ที่สุดของเมืองมุมไบ นับตั้งแต่เหตุ “วันศกร์ทมิอ ในปี 1993 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 257 คน บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 800 คน
