เอเอฟพี/ เอเจนซี - ตำรวจออสเตรเลีย วันนี้ (4) จับกุมชาย 4 คน ที่พัวพันกับกลุ่มติดอาวุธในโซมาเลีย ฐานต้องสงสัยวางแผนฆ่าตัวตายโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่ง ถือเป็นการตอกย้ำว่า ประเทศแห่งนี้ยังคงป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์
ชาย 4 คน ถูกจับกุมระหว่างปฏิบัติการจู่โจมบ้านเรือน 19 หลังทั่วเมืองเมลเบิร์น ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ภายหลังการสอบสวนขยายผลนานกว่า 7 เดือนของหน่วยความมั่นคงแห่งชาติของออสเตรเลีย โดยมีชายคนที่ 5 ซึ่งถูกควบคุมตัวในข้อหาอื่น กำลังถูกสอบสวน
ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ราย มีอายุระหว่าง 22-26 ปี และทุกคนถือสัญชาติออสเตรเลีย จากพื้นเพเดิมเป็นชาวโซมาเลีย และเลบานอน ตำรวจกล่าว ทั้งนี้ มีชายคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาสมคบคิดวางแผนหรือเตรียมก่อการร้าย โดยทั้งหมดจะถูกนำตัวขึ้นศาล
เจ้าหน้าที่หลายคน กล่าวว่า การเตือนภัยก่อการร้ายของออสเตรเลีย ยังอยู่ในระดับปานกลาง นับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา ขณะที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เควิน รัดด์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นเครื่องย้ำเตือน “ที่ยังคงอยู่” ถึงภัยก่อการร้าย แต่ปฏิเสธจะพิจารณาถอนทหารออสเตรเลีย จำนวน 1,550 คน ออกจากอัฟกานิสถาน
ทั้งนี้ ออสเตรเลียไม่เคยเผชิญกับภัยโจมตีในมาตุภูมิ แต่เคยมีชาวออสเตรเลียมากกว่า 90 ราย ถูกสังหารในเหตุระเบิดบาหลีของอินโดนีเซีย เมื่อปี 2002 และ 2005
โทนี เนกัส รักษาการคณะกรรมาธิการตำรวจแห่งชาติของออสเตรเลีย แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ราย กำลังวางโจมตีฆ่าตัวตาย ด้วยการใช้ปืนกลอัตโนมัติถล่มค่ายทหารชานเมืองซิดนีย์
“ผู้ต้องสงสัยตั้งใจจะบุกไปยังค่ายทหาร และสังหารทหารให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ จนกว่าตัวจะตาย” เนกัส กล่าว
“เราเชื่อว่า ผู้ต้องสงสัยพัวพันกับกองกำลังติดอาวุธ “อัล ชาบับ” ในโซมาเลีย”
ทั้งนี้ “อัล ชาบับ” เป็นกองกำลังติดอาวุธอิสลามิสต์หัวรุนแรง ที่ก่อสงครามในโซมาเลีย กลุ่มดังกล่าวประกาศจะปกครองประเทศมุสลิมส่วนใหญ่แห่งนี้ด้วยกฎหมายชารีอะห์
