เอเอฟพี - ไนจีเรีย เสริมกำลังทหารเข้าไปยังพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศอีก 1,000 นายเมื่อวันพุธ(29) เพื่อปราบกองกำลังอิสลามิตส์ หลังเหตุปะทะต่อเนื่อง 4 วันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 คนเข้าให้แล้ว
“เราต้องการทำงานนี้ให้สำเร็จลุล่วงในช่วงเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เฉพาะฉะนั้นเราจึงได้รับกำลังเสริมอีก 1,000 นาย” แหล่งข่าวทหารนายหนึ่งกล่าว
“พวกเขาเดินทางมาถึงในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อเข้าร่วมกับทหารภาคพื้นดิน” แหล่งข่าวบอกกับเอเอฟพีจากเมืองไมดูกูรี รัฐบอร์โน ทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของนักรบที่เรียกขานตนเองว่าเป็นตอลิบานแห่งไนจีเรีย ที่ต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงมาตั้งแต่วันอาทิตย์(26)
ทหารเหล่านี้ถูกส่งมาจากเซลาบาร์ เมืองหลวงของรัฐครอสส์ริเวอร์ หนึ่งในรัฐที่เป็นฐานผลิตน้ำมันของไนจีเรีย
กองทัพพยายามกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธอิสลามิตส์ที่กระจายกำลังโจมตีสถานีตำรวจ เรือนจำ โบสถ์ และอาคารต่างๆ ของราชการทั่วรัฐทางภาคเหนือของไนจีเรีย จุดชนวนให้เกิดการปะทะกับกองกำลังความมั่นคง
เหตุปะทะที่มีต่อเนื่องมา 4 วันทำให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเหนือ 300 รายแล้วและประชาชนอีกหลายพันคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะพลเรือนในไมดูกูรี
ทั้งนี้ ในการสู้รบเมื่อวันพุธ(29) จุดปะทะที่ดุเดือดที่สุดมีขึ้นในย่านบายาน ควอร์เตอร์ส ฐานทัพสำคัญของ โมฮัมเหม็ด ยูซุฟ แกนนำของกลุ่มนักรบ
บ้านของยูซุฟ ถูกทหารยิงถล่มในคืนวันอังคาร(28) เช่นเดียวกับมัสยิดแห่งนี้ที่มีผู้ติดตามของเขารวมตัวอยู่จำนวนมาก ทว่า ยูซุฟ สามารถหลบหนีออกไปได้
แหล่งข่าวตำรวจรายหนึ่งบอกก่อนหน้านี้ว่าปฏิบัติการกวาดล้างของทหารอาจต้องใช้เวลามากกว่าที่คิดไว้แต่แรก อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี อูมารู มูซา ยาร์อาดัว มองโลกในแง่ดีว่ากลุ่มกบฏจะแตกพ่ายภายในวันนี้
“สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมของเราและผมเชื่อว่าในตอนจบวัน ทุกอย่างจะจบสิ้น” ยาร์อาดัว กล่าวในช่วงค่ำวันอังคาร(28) ตามเวลาท้องถิ่น