เอเอฟพี - ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซของเวเนซุเอลา วานนี้ (28) ตัดสินใจจะ “ระงับ” ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างโคลลอมเบีย และสั่งเรียกทูตกลับประเทศทันที เพื่อตอบโต้ที่ทางการกรุงโบโกตากล่าวหาว่า ฝ่ายการากัสพัวพันกับพวก "ฟาร์ก"กลุ่มกบฎลัทธิมาร์กซิสต์
ชาเวซยังขู่จะ “ระงับ” เงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนของสองประเทศ และเตือนด้วยว่า กิจการต่างๆ ของโคลอมเบียในเวนาซุเอลาอาจถูกยึด
“จากท่าทีแข็งกร้าวครั้งใหม่ของรัฐบาลโคลอมเบีย ผมจึงสั่งเรียกตัวทูตของเราประจำโบโกตากลับประเทศ” ชาเวซกล่าวทางสถานีโทรทัศน์
“เราจะระงับความสัมพันธ์กับโคลอมเบีย” ผู้นำฝ่ายซ้ายกล่าว
สัปดาห์ที่ผ่านมา ความตึงเครียดระหว่างกรุงการากัสกับฝ่ายโบโกตาลุกลามอย่างรวดเร็ว เฉพาะอย่างยิ่งจากคำประกาศของรัฐบาลโคลอมเบียที่ระบุว่า ได้ตกลงทำสนธิสัญญาฉบับใหม่กับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลของเวเนซุเอลา เพื่ออนุญาตให้สหรัฐฯ ใช้ฐานทัพในประเทศเพื่อปฎิบัติภารกิจกวาดล้างยาเสพติด
และในวันจันทร์ที่ผ่านมา (27) ฝ่ายโบโกตากล่าวว่า ได้ยึดอาวุธจากกลุ่มฟาร์ก ซึ่งเป็นกลุ่มกบฎที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งละตินอเมริกา ซึ่งผลิตที่สวีเดนและขายให้กับเวเนซุเอลา
ชาเวซตอบโต้คำแถลงล่าสุดของประธานาธิบดีอัลวาโร อุริเบแห่งโคลอมเบีย ที่กล่าวหากรุงคารากัสว่า “ไม่มีหลักฐาน” ยืนยันว่า โคลอมเบียจัดส่งอาวุธต่างๆ ใหักับกลุ่มกบฏ
ชาเวซเตือนว่า จะระงับการนำเข้าสินค้าต่างๆ จากโคลอมเบียมายังเวเนซุเอลา ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ผู้นำเวเนซุเอลายังขู่จะ “ยึด” กิจการของโคลอมเบียในเวเนซุเอลา หากกรุงโบโกตายังแสดงท่าทีแข็งกร้าวยิ่งขึ้นอีก
ด้านเจ้าหน้าที่หลายคนในกรุงสตอกโฮล์มยืนยันว่า อาวุธบางส่วน ซึ่งผลิตที่สวีเดนและขายให้กับเวเนซุเอลา ถูกพบที่ค่ายของกลุ่มกบฏฟาร์กจริง ทางการสวีเดนจึงเรียกร้องให้กรุงการากัสอธิบายว่าอาวุธเหล่านั้นอยู่ในมือของกลุ่มกบฏได้อย่างไร