"ผมไม่ใช่นักบุญ" ผู้นำอิตาลีโต้หลังถูกแฉใช้บริการของโสเภณี

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ซึ่งกำลังเผชิญข่าวฉาวเรื่องจ้างโสเภณีชั้นสูงมาให้บริการถึงบ้าน ได้เรียกร้องให้คนที่กล่าวให้ร้ายเขาให้เข้าใจด้วยว่า เขาไม่ใช่นักบุญ สำนักข่าวอันซารายงานในวันนี้(22)

"ผมไม่ใช่นักบุญ" ผู้นำเศรษฐีหมื่นล้านแห่งแดนมะกะโรนีกล่าวในพิธีเปิดโครงการสร้างทางหลวงในเมืองเบรสเซีย "คุณเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น และหวังว่าลาริพลับลิกาจะเข้าใจด้วย" แบร์ลุสโคนีระบุ โดยอ้างถึงหนังสือพิมพ์รายวันเอียงซ้ายที่ตามแฉความผิดหยุมๆ หยิมๆ ของเขามาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน

ข่าวคาวๆ ของผู้นำอิตาลีวัย 72ปี เริ่มขึ้นตั้งแต่รายงานซุบซิบว่า เขามีความสัมพันธ์กับสาววัยรุ่นวัย 18 ปี ผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนางแบบและเรียกเขาว่า "ป๊ะป๋า" จนเป็นสาเหตุทำให้ภรรยาเขาขอฟ้องหย่า จากนั้นหนังสือพิมพ์เอลปาอิสของสเปน ก็ตีพิมพ์ภาพชุดงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่คฤหาสถ์สุดหรูของเขา ก่อนที่จะมีการตีข่าวขยายออกไปว่า แบร์ลุสโคนีจ้างแพทริเซีย ดีอัดดาริโอ โสเภณีระดับสูงวัย 42 ปี มาอยู่ด้วยที่บ้านในคืนหนึ่ง

และเมื่อวันจันทร์และวันอังคารผ่านมา เล็กเพรสโซ่ นิตยสารรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ลาริพลับลิกา ได้โพสต์วิดีโอคลิปลงเว็บไซต์ซึ่งดูเหมือนเป็นข้อพิสูจน์ว่า แบร์ลุสโคนีและโสเภณีชั้นสูงคนนี้มีความสัมพันธ์กันจริง ต่อมาในวันนี้ หนังสือพิมพ์ลาริพลับลิกาได้ตามรายงานภาพบางส่วนที่แสดงให้เห็นว่า ทั้งคู่กำลังทานอาหารเช้าด้วยกันในวันถัดมาด้วย

เมื่อเดือนที่แล้ว แบร์ลุสโคนี ซึ่งเป็นเพลย์บอยตัวยงกล่าวว่า เขาจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร และอ้างว่าชาวอิตาลีต้องการเขาแบบที่เขาเป็น

"ผมเป็นอย่างนั้นและก็จะไม่เปลี่ยน ประชาชนต้องการผมในแบบที่ผมเป็น" "พวกเขาต้องการผมเพราะผมดี เอื้อเฝื้อ จริงใจ จงรักภักดี และผมก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้"

เจ้าพ่อสื่อยังชี้ว่าเขาได้รับเสียงนิยมถึง 61 เปอร์เซ็นต์ แต่ผลการสำรวจล่าสุดจากริพลับลิกาเผยว่า ขณะนี้เหลืออยู่ที่ 49 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นครั้งแรกที่คะแนนนิยมของเขาตกลงมาต่ำกว่าร้อยละ 50 นับตั้งแต่เขาชนะการเลือกตั้งในเดือนเมษายนปี 2008

ด้านดีอัดดาริโอเผยว่า เธอได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพห้องนอนของแบร์ลุสโคนีไว้ รวมถึงโต๊ะข้างเตียงที่ตั้งภาพของ เวโรนิกา ลาริโอ ภรรยาของแบร์ลุสโคนีด้วย

แต่ผู้นำอิตาลีปฏิเสธว่า ไม่เคยจ่ายเงินเพื่อซื้อบริการทางเพศ "ผมไม่เคยเห็นว่าจะมีความพึงพอใจจากสิ่งนี้ โดยปราศจากความยินดีกับความรู้สึกได้เอาชนะใจ(คู่รัก)" แบร์ลุสโคนีกล่าว