อีฟนิงสแตนดาร์ด/เดลีเมล - ราเชล คริสตี นักสัตตกรีฑาวัย 20 ปี คว้ามงกุฎ “มิสอังกฤษประจำปี 2009” ไปครอง เบียดคู่แข่ง 49 คนจากการประชันขาอ่อนกลางกรุงลอนดอน เมื่อคืน(20) ที่ผ่านมา และกลายเป็นมิสอังกฤษผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์เมืองผู้ดี ขณะที่ทหารสาวที่เคยไปรับใช้ชาติในอิรักคว้าอันดับสอง
ราเชล นักศึกษามหาวิทยาลัยบรูเนล คว้ารางวัลอันทรงเกียรติจากการประกวดที่จัดขึ้นที่โรงแรมเมโทรโพลฮิลตัน กลางกรุงลอนดอน สาวน้อยผิวสีจากกรุงลอนดอน กล่าวต่อคณะกรรมการว่า
“ความทะเยอทะยานของฉัน คือ การลงแข่งและได้เหรียญทองในกีฬาโอลิปิก 2012 และฉันปรารถนาด้วยว่าจะทำหน้าที่ได้ดีในฐานะมิสอังกฤษ ฉันอยากประสบความสำเร็จในทุกอย่างที่ฉันเลือกทำในชีวิต”
เธอมีความสามารถในการแข่งสัตตกรีฑา (วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตร กระโดดสูง ทุ่มน้ำหนัก วิ่ง 200 เมตร กระโดดไกล พุ่งแหลน และวิ่ง 800 เมตร) และกำลังอยู่ระหว่างการฝึกซ้อมแข่งลงกีฬาโอลิมปิกพร้อมกับพี่ชาย โดยมี ลินฟอร์ด คริสตี เจ้าของเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรในกีฬาโอลิมปิก ซึ่งเป็นลุงของพวกเธอเองเป็นโค้ชให้ ทั้งนี้ ราเชล เคยชนะการประกวดมิสลอนดอนมาแล้วในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
สำหรับผู้ได้รับอันดับสอง คือ สิบตรีแคทรีน่า ฮอดจ์ วัย 22 ปี ซึ่งได้รับความชื่นชมจากความกล้าหาญ หลังผ่านการสู้รบในเมืองบัสเราะห์ของอิรักมาแล้ว เธอกล่าวก่อนการลงคะแนนว่า "ฉันคิดว่า ฉันเป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดในอังกฤษหรือเปล่า แต่สำหรับฉันแล้ว มิสอังกฤษไม่ใช่สิ่งนี้เท่านั้น ฉันคิดว่า ผู้ชนะควรจะงามจากภายในด้วย"
"ฉันคิดว่าฉันได้แสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงในกองทัพนั้นสวยและมีความเป็นหญิงได้ และไม่จำเป็นที่สาวๆ ที่เข้าประกวดความงามจะสวยแต่ไร้สมอง" ฮอดจ์กล่าวหลังได้รางวัล
ด้านสาวผมบลอด์วัย 23 ปี วิกี้ ไบเลย์ ได้ตำแหน่งอันดับ 3 หลังจากก่อนหน้านี้เธอเคยได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดในเมืองลีดส์มาแล้ว
สำหรับคริสตี้นั้นจะเป็นตัวแทนจากอังกฤษไปร่วมประกวดมิสเวิลด์ 2009 กับสาวงามจากทั่วโลกในกรุงโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ในเดือนธันวาคมนี้
การประกวดเมื่อคืนวานนี้ถูกโจมตีจากผู้ประท้วง ซึ่งประณามว่า การแข่งขันเป็นเรื่องกีดกันและแบ่งแยกทางเพศ “ผู้หญิงทุกคนเป็นราชินี ความงามไม่ใช่แค่เปลือกนอก" ป้ายของผู้ประท้วงระบุ