มะกันคุมเข้มโรงแรมหลังเหตุบึ้มแมริออทในอินโดฯ-นานาชาติร่วมประณาม

เอเจนซี - ตำรวจสหรัฐฯ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ณ โรงแรมสำคัญๆของนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์(17) หลังเกิดเหตุโจมตี 2 โรงแรมหรูในกรุงจาการ์ตา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้ว่าเป็นฝีมือของมือระเบิดพลีชีพ 2 ราย ขณะที่นานาชาติออกมาประณามต่อปฏิบัติการเลวร้ายที่สังหารชีวิตประชาชนอย่างน้อย 9 ราย

"ยังไม่มีข้อมูลข่าวสารสำหรับภัยคุกคามแบบเดียวกันนี้ในนิวยอร์ก แต่มันคือมาตรฐานการปฏิบัติของเราในมาตรการป้องกันไว้ก่อน" เรย์มอนด์ เคลลร ผู้บัญชาการตำรวจกล่าวในแถลงการณ์

นิวยอร์ก -- ที่ตั้งของสถานที่สำคัญทั้งวอลล์สตรีท ละครบรอดเวย์และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่ดึงดูกนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจหลายล้านคนต่อไป -- ยังอยู่ในระดับเตือนภัยคุกคามความมั่นคงขั้นสูงนับตั้งแต่โศกนาฏกรรม 11 กันยายน 2001 โจมตีเวิลด์เทรดเซนเตอร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2,749 ราย

ด้าน พอล บราวน์ โฆษกตำรวจบอกว่าเจ้าหน้าที่และทีมรถของหน่วยพิเศษได้กระจายกำลังอยู่รอบโรงแรมขนาดใหญ่ในนิวยอร์ก ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงครึ่งหลังเกิดเหตุระเบิดที่กรุงจากาตาร์

ส่วนความคืบหน้าในกรุงจาการ์ตาบัมบัง เฮนดาร์โซ ดานูรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเหตุโจมตี 2 โรงแรมหรูเป็นฝีมือของมือระเบิดพลีชีพ 2 ราย "ตามหลักฐานที่เจอ ณ ที่เกิดเหตุ เราพบว่ามีมือระเบิดฆ่าพลีชีพ 2 ราย"

เขาระบุว่าพยานเห็นมือระเบิดพลีชีพอยู่ที่เป้าหมายโรงแรมจีดับเบิลยูแมริออทและโรงแรมริตซ์-ชาร์ลตัน ราว 8.00 น. และตำรวจจะตรวจสอบชิ้นส่วนของร่างกายรวมไปถึงดีเอ็นอีจากศีรษะที่หลุดออกมาจากศพหนึ่งในความพยายามระบุเอกลักษณ์บุคคล

ตำรวจสันนิษฐานว่าระเบิดทั้งสองลูกถูกนำมาจากห้อง 1808 ของโรงแรมแมริออท -- ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ชี้ว่าเป็นศูนย์ควบคุมของปฏิบัติการโจมตี -- และเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่าใครเข้าพักในห้องนี้

ยังเร็วเกินไปสำหรับการสืบสวนที่จะชี้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจระบุ แม้ว่าหน่วยต่อต้านก่อการร้ายและนักวิเคราะห์คาดหมายว่าอาจเป็นฝีมือของเครือข่ายญะห์มาอะห์ อิสลามียะห์ (เจไอ)

ด้านออสเตรเลียและสหรัฐฯ นำนานาชาติออกมาประณามเหตุโจมตีดังกล่าว โดย เควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียบอกว่าปฏิบัติการครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกคลื่นเหียนอาเจียน

รัดด์ ยังแสดงความกังวลถึงชะตากรรมของเจ้าหน้าที่สถานทูตรายหนึ่งและชาวออสเตรเลียอีก 2 คน ที่หายตัวไปหลังเหตุโจมตี ขณะที่ทางรัฐบาลได้ยกระดับเตือนภัยสำหรับอินโดนีเซีย ประกาศเตือนให้พลเมืองออสเตรเลียทบทวนการเดินทางไปอินโดนีเซียในระยะนี้

ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กำลังเดินทางไปอินเดียและไทย กล่าวว่า "เราขอประณามพฤติกรรมแห่งความรุนแรงที่ไร้สตินี้และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือหากว่าได้รับคำร้องขอมาจากรัฐบาลอินโดนีเซีย" ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงและแสดงความเสียใจต่อเหยื่อและครอบครัวผู้เสียชีวิต

เลขาธิการทั่วไปขององค์การการประชุมอิสลาม ซึ่งปะกอบด้วยชาติสมาชิก 57 ประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีก่อการร้ายที่น่าสยดสยองและไร้เหตุผลในจาการ์ตา

ขณะที่สหภาพยุโรปซึ่งมีสวีเดนเป็นประธานหมุนเวียน ได้แสดงความเกรี้ยวกราดต่อปฏิบัติการอันโหดเหี้ยมและส่งผ่านความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวืต ขณะที่รัฐบาลอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ ก็ได้ร่วมออกแถลงการณ์ประณามด้วยเช่นกัน

ในเอเชีย รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปึ่น บอกว่า "ก่อการร้ายไม่สามารถอ้างเหตุผลได้ไม่ว่ากรณีใดๆ และญี่ปุ่นขอประณามต่อปฏิบัติการก่อการร้ายที่มีเป้าหมายประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากนี้" คำแถลงในลักษณะเดียวกับ ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์

ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้แถลงการณ์แสดงความเสียใจและประณามต่อผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่ได้คร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก