เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อน หลายระลอกทั้งในกรุงแบกแดด และเมืองทัล อาฟาร์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ราย บาดเจ็บอีกว่า 80 คน นับเป็นเหตุโจมตีที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐฯ เริ่มถอนทหารออกจากอิรัก
เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า มือระเบิด 2 คนระเบิดตัวเองในเมืองทัล อาฟาร์ โดยระเบิดลูกแรกได้โจมตีอาคารหลังหนึ่ง ซึ่งถูกใช้เป็นศาลพิจารณาคดีผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ขณะที่ระเบิดลูกที่ 2 ระเบิดขึ้นขณะที่ผู้คนออกมารวมตัวกันเมื่อได้ยินเสียงเหตุระเบิดครั้งแรก
ดร.ฟาตี ยัสซิน ของโรงพยาบาลทัล อาฟาร์ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 35 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 6 คน ในการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากเหตุคาร์บอมบ์ในเมืองโมซุล เมืองสำคัญทางเหนือของประเทศ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 7 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 20 คน ในเหตุระเบิดที่ตลาด เขตซาดร์ ซิตี ในกรุงแบกแดด ซึ่งเป็นย่านของชาวชีอะห์ แหล่งข่าวจากทางตำรวจ และโรงพยาบาลเผย
ทัล อาฟาร์เป็นเมืองของชาวเติร์ก อยู่ระหว่างเมืองโมซุล และชายแดนติดกับซีเรีย ซึ่งมักเกิดเหตุระเบิดโจมตีบ่อยครั้ง โดยในเดือนมีนาคม ปี 2007 ถูกระเบิดครั้งเดียวแต่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่กองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯ บุกอิรักในปี 2003 มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 150 คน
เหตุระเบิดหลายระลอกนี้เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากทหารสหรัฐฯ ถอนทัพออกจากอิรักเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ภายใต้ข้อตกลง ซึ่งปูทางให้ถอนททหารอเมริกันอย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2011
ขณะที่ตัวเลขอย่างเป็นทางการชี้ว่า 4 สัปดาห์ก่อนที่สหรัฐฯ จะถอนทัพออกจากอิรักนั้นมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงสูงสุดในรอบ 11 เดือน โดยรวมทั้งหมด 437 ราย เป็นเพลเมือง 372 คน
