เอเอฟพี – โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในออสเตรเลียออกมาแสดงความขอโทษ หลังผู้ป่วยชายรายหนึ่งได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน โดยให้กินแค่ยาแก้ปวด แม้ว่าเขาคอหัก ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นอัมพาตจนเดินไม่ได้
พอล เคอร์ทิส เผยว่า เขาโชคดีที่ยังไม่ได้เป็นอัมพาตท่อนล่าง หลังเรื่องยุ่งเหยิงในเดือนที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลไรด์ ในซิดนีย์
ชาย วัย 31 ปีรายนี้เข้ารับการรักษาในแผนกฉุกเฉินในคืนวันศุกร์คืนหนึ่ง ด้วยอาการปวดอย่างรุนแรง หลังประสบอุบัติเหตุศีรษะชนกับเพื่อนของเขา
ทางโรงพยาบาลบอกกับเขาว่าแผนกฉายรังสีปิดแล้ว และเขาควรกลับบ้าน ไปกินยาพาราเซตามอล ซึ่งเคอร์ทิสก็ปฏิบัติตามคำแนะนำ
ทว่า เขาต้องกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้งในเช้าวันจันทร์ หลังมีเจ็บปวดทรมานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จนพบว่าตัวเองคอหัก ซึ่งเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทไขสันหลัง
เขาเล่าว่า “พวกเขาเอ็กเรย์ผม และบอกว่า อย่าขยับ คุณคอหัก”
อย่างไรก็ตาม เขาเข้ารับการผ่าตัด และต้องใช้เวลาพักฟื้น โดยสวมเฝือกคอไว้เป็นเวลานานหลายเดือน
“เมื่อหมอบอกผมว่า คุณโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณโชคดีที่ไม่ได้เป็นอัมพาต พวกเขาค่อนเขาทำให้ผมตกใจมากทีเดียว” เคอร์ทิสกล่าว
ด้าน ปีเตอร์ โรเบิร์ตส์ หัวหน้าแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลไรด์แจงว่า ระเบียบการสำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเอ็กซ์เรย์ในเวลาดึกนั้นจะได้รับการทบทวนใหม่
“ในฐานะตัวแทนของโรงพยาบาลไรด์ เราเสียใจกับเรื่องที่เกิดกับพอล เคอร์ทิส” โรเบิร์ตส์กล่าว โดยเสริมว่า ในอนาคตผู้ป่วย ที่มีอาการทั่วไปก็จะได้รับการเอ็กซ์เรย์เสียก่อน
พอล เคอร์ทิส เผยว่า เขาโชคดีที่ยังไม่ได้เป็นอัมพาตท่อนล่าง หลังเรื่องยุ่งเหยิงในเดือนที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลไรด์ ในซิดนีย์
ชาย วัย 31 ปีรายนี้เข้ารับการรักษาในแผนกฉุกเฉินในคืนวันศุกร์คืนหนึ่ง ด้วยอาการปวดอย่างรุนแรง หลังประสบอุบัติเหตุศีรษะชนกับเพื่อนของเขา
ทางโรงพยาบาลบอกกับเขาว่าแผนกฉายรังสีปิดแล้ว และเขาควรกลับบ้าน ไปกินยาพาราเซตามอล ซึ่งเคอร์ทิสก็ปฏิบัติตามคำแนะนำ
ทว่า เขาต้องกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้งในเช้าวันจันทร์ หลังมีเจ็บปวดทรมานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จนพบว่าตัวเองคอหัก ซึ่งเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทไขสันหลัง
เขาเล่าว่า “พวกเขาเอ็กเรย์ผม และบอกว่า อย่าขยับ คุณคอหัก”
อย่างไรก็ตาม เขาเข้ารับการผ่าตัด และต้องใช้เวลาพักฟื้น โดยสวมเฝือกคอไว้เป็นเวลานานหลายเดือน
“เมื่อหมอบอกผมว่า คุณโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณโชคดีที่ไม่ได้เป็นอัมพาต พวกเขาค่อนเขาทำให้ผมตกใจมากทีเดียว” เคอร์ทิสกล่าว
ด้าน ปีเตอร์ โรเบิร์ตส์ หัวหน้าแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลไรด์แจงว่า ระเบียบการสำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเอ็กซ์เรย์ในเวลาดึกนั้นจะได้รับการทบทวนใหม่
“ในฐานะตัวแทนของโรงพยาบาลไรด์ เราเสียใจกับเรื่องที่เกิดกับพอล เคอร์ทิส” โรเบิร์ตส์กล่าว โดยเสริมว่า ในอนาคตผู้ป่วย ที่มีอาการทั่วไปก็จะได้รับการเอ็กซ์เรย์เสียก่อน