เอเอฟพี - เกาหลีเหนือ ระบุวันนี้ (16) ว่า 2 นักข่าวสาวชาวอเมริกันที่ถูกตัดสินจำคุก 12ปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยอมรับว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านเกาหลีเหนือ นับเป็นครั้งแรกที่ทางการรัฐคอมมิวนิสต์เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับคดีก่ออาชกรรมของนักข่าวเชื้อสายเอเชียทั้งสอง
สื่อทางการของเกาหลีเหนือ เผยว่า ลอรา หลิง วัย 32 ปี และ ยูนา ลี วัย 36 ปี ซึ่งถูกตัดสินกักตัวในค่ายแรงงานนาน 12 ปี ยอมรับว่า พวกเธอข้ามเข้าพรมแดนของเกาหลีเหนือมาด้วยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำภาพยนตร์ต่อต้านเกาหลีเหนือ ในประเด็นสิทธิมนุษยชน หลังทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนโสมแดง จับเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะกำลังทำสารคดีเล่าเรื่องผู้ลี้ภัยจากเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือ เผยว่า ทั้งคู่ได้ยอมรับการติดสินในอาชกรรมดังกล่าว ซึ่งไม่สามารถอุทธรณ์ได้ โดยยอมรับว่า มีแรงจูงใจทางการเมืองเพื่อโดดเดี่ยวและต่อต้านเกาหลีเหนือ ด้วยการสร้างภาพลักษณ์เท็จเพื่อบิดเบือนการกระทำด้านสิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหนือ
ศาสตราจารย์ คิมยองฮยุน แห่งมหาวิทยาลัยดองกุก ในกรุงโซล เกาหลีใต้ ให้ความเห็นว่า เกาหลีเหนือกำลังพยายามส่งสัญญาณบอกว่า ถึงเวลาแล้วที่สหรัฐฯจะเริ่มการเจรจากับเกาหลีเหนือ เพื่อหาทางออกทางการเมือง โดยรายงานดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ในกรุงวอชิงตัน วันนี้ ดังนั้น ทำให้ดูเหมือนว่าเกาหลีเหนือกำลังพยายามเรียกร้องความสนใจจากสหรัฐฯในประเด็นนี้
ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ เผยว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลอีก โดยการเตรียมการที่ฐานยิงนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว นอกจากนี้ แหล่งข่าวข่าวกรองของสหรัฐฯยังเชื่อว่า เกาหลีเหนือจะทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้งเพื่อเป็นการประท้วงการลงมติคว่ำบาตรจากสหประชาชาติที่ประณามการกระทำอันคุกคามของเกาหลีเหนือ
