เอเอฟพี - โจเอล ฟิตซ์กิบบัน ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียแล้ว ในวันนี้ (4) หลังจากมีการเปิดเปิงว่าเขาใช้อำนาจเอื้อผลประโยชน์ให้พี่น้องตัวเอง รวมทั้งกรณีอื้อฉาวอีกหลายอย่าง นับเป็นความอับอายขายหน้าครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เควิน รัดด์
รัดด์ ซึ่งออกมาประกาศการลาออกของเขา โดยระบุว่า ฟิตซ์ กิบ บัน ได้ชดใช้ความผิดที่เกี่ยวข้องกับสำนึกในหน้าที่ และได้บอกว่าเขาได้เน้นย้ำเรื่องสำนึกในหน้าที่ต่อสมาชิกคณะรัฐมนตรีทุกคน
นายกรัฐมนตรี รัดด์ ก้าวขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2007 และเป็นผู้ให้ความสนับสนุนฟิตซ์กิบบันอย่างยิ่ง ทั้งที่มีรายงานเปิดโปงเรื่องเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับเขา รวมถึงสายสัมพันธ์ของเขากับนักธุรกิจเชื้อสายจีนที่ถูกกล่าวหาว่าจารกรรมให้แก่รัฐบาลจีน
รัดด์ กล่าวว่า รัฐมนตรีกลาโหมของเขาได้ลาออก หลังจากปรากฏว่า เขาได้เรียกให้นายพลคนหนึ่งที่รับผิดชอบในด้านบริการสาธารรสุขให้แก่กองทัพมาพบกับน้องชายของเขา ซึ่งทำธุรกิจบริษัทประกันภัย
นอกจากนี้ ฟิตซ์กิบบัน ยังตกอยู่ใต้ความกดดันอย่างหนัก หลังจากเขาไม่สามารถชี้แจงค่าห้องพักโรงแรม ที่จ่ายโดยบริษัท เอ็นไอบี ของน้องชายได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี รัดด์ ระบุว่า เป็นความผิดพลาดในเรื่องสำนึกในหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับเพื่อรักษามาตรฐานความรับผิดชอบ
ฟิตซ์กิบบัน วัย 47 ปี ตกอยู่ใต้ความกดดันตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากไม่สามารถอธิบายการเดินทางไปเยือนจีน 2 เที่ยว ซึ่ง เฮเลน หลิว นักธุรกิจผู้มั่งคั่งเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ด้วย
ในช่วงต้นเขาปฏิเสธว่าไม่ได้รับอะไรนอกเสียจาก “ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากหลิว” ซึ่งเป็นเพื่อนของครอบครัว ในเวลาต่อมา หลิว ก็ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการจารกรรมความลับ และสำนักข่าวกรองแห่งชาติออสเตรเลียก็ระบุว่าเธอไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับความมั่นคง