ซีเอ็นเอ็น/เอเจนซี - เกิดเหตุระทึกหลังชายคนหนึ่งพกระเบิดมือเข้าไปยังทำเทียบประธานาธิบดีเซอร์เบียนานหลายชั่วโมง พร้อมขู่ฆ่าตัวตายในวันพฤหัสบดี(21) แต่สุดท้ายเหตุการณ์คลี่คลายเมื่อผู้ก่อเหตุยอมมอบตัวต่อตำรวจ
“เหตุการณ์ระทึกขวัญจบลงแล้ว และชายคนดังกล่าวยอมมอบตัว” บอริสลาฟ คอร์โคเดโลวิช บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ทันยังบอกกับซีเอ็นเอ็น “ตามปกติแล้วเขาจะถูกตั้งข้อหาภายใน 48 ชั่วโมง แต่เราไม่ทราบว่าเขาจะเจอข้อหาอะไรเพราะเรายังไม่รู้ว่าเขาจิตปกติหรือไม่”
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนภูมิภาคนี้ เดินทางออกจากกรุงเบลเกรดไม่นานก่อนเหตุระทึกขวัญเกิดขึ้น โดยเขาเพิ่งเข้าพบบอริส ทาดิช ประธานาธิบดีเซอร์เบียในอาคารเดียวกันนี้เมื่อวันพุธ (20) และเดินทางต่อไปยังโคโซโวในเช้าวันพฤหัสบดี(21)
มีรายงานว่า ประธานาธิบดีผู้ฝักใฝ่ตะวันตก ทาดิช ได้เข้าไปในอาคารหลังจากที่กรณีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยว่า ทำไมเขาจึงเข้าไปที่นั่น ในช่วงที่หน่วยสวาทกำลังพยายามหาทางออกจากปัญหาดังกล่าว
ต่อมาทราบเชื่อว่าชายคนดังกล่าว คือ ดรากาน มาริช อายุ 57 ปี นักธุรกิจล้มละลายซึ่งยอมจำนนหลังการเจรจาอันยืดเยื้อกว่า 5 ชั่วโมง
“เขาถูกจับ มันจบแล้ว” แหล่งข่าวตำรวจบอกกับรอยเตอร์ “ระเบิดถูกนำออกจากตัวเขาอย่างปลอดภัยหลัง 5 ชั่วโมงของการเจรจา” ทั้งนี้ มาริช ขู่ต่างๆ นานาว่าเขาปลดสลักระเบิดระหว่างอยู่ในตัวอาคารหากว่าคดีของเขาที่อยู่ในชั้นศาลไม่มีข้อสรุปอะไรภายในวันนี้
“ชายคนนี้เข้ามาทางประตูทางเข้าปกติที่สื่อมวลชนและประชาชนใช้เข้ามายังตัวอาคาร” โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีระบุ
มาริช ขีดเส้นตายรัฐบาลถึง 14.00 จีเอ็มที (ประมาณ 21.00 น.ตามเวลาในเมืองไทย) สำหรับการทำตามข้อเรียกร้องของเขาคือคลี่คลายปัญหานอกศาล อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านเส้นตายก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะที่ตำรวจยังพยายามโน้มน้าวให้เขายอมมอบตัว
เจ้าหน้าที่รัฐบาลรายหนึ่งเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุว่าคนร้ายได้ประกาศถึงแผนการของเขาในอีเมลที่ส่งถึงหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง ว่าจะระเบิดตัวเอง หากว่าศาลไม่ตัดสินในแบบที่เอื้อประโยชน์กับเขาในคดีที่ไม่มีการเปิดเผยก่อนเวลาที่ขีดเอาไว้
ทั้งนี้ มาริช ครั้งหนึ่งเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่ง เคยประกาศอดอาหารประท้วงมาหลายครั้ง เมื่อบริษัทของเขาล้มละลายในช่วงต้นทศวรรษ และ 2 ปีก่อน เขาก็เคยขู่เผาตัวเองและเคยออกมาเสนอขายไตเพื่อนำเงินมาใช้เลี้ยงชีพ
ในหนังสือที่ส่งถึงประธานาธิบดีทาดิช นายมาริชกล่าวว่า เขาไม่มีเจตนาทำร้ายใคร แต่เขาขอเลือกตายดีกว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลผู้กดชี่ มาริชอ้างว่ารัฐบาลได้ยึดเงิน 1.2 ล้านดอลลาร์ และทรัพย์สินอื่นๆของเขาไป รวมทั้งมรกต พันธบัตร คอมพิวเตอร์และเอกสารสำคัญ
ด้าน ทาดิช กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ไม่ว่าจะปัญหาอะไร พวกเขาไม่อาจคลี่คลายมันได้ด้วยการบังคับหรือก่ออันตรายต่อชีวิต”
“เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ความพยายามลอบสังหาร” นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคง โซรัน กรากิซิสกล่าว “มันเป็นการกระทำของชายผู้จนตรอกและไม่ได้รับการหนุนหลังจากองค์กรใดๆ”