เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น - เกิดคาร์บอมบ์รุนแรงถล่มย่านพลุกพล่านทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดดเมื่อวันพุธ (20) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 ราย นับเป็นเหตุระเบิดในเมืองหลวงของอิรักครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงระบุ
การโจมตีเกิดขึ้นบริเวณด้านนอกของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ย่านShula พื้นที่ของชาวมุสลิมชีอะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงอิรัก โดยมีผู้เสียชีวิต 34 รายและบาดเจ็บ 72 คน เจ้าหน้าที่บอก
“เหตุระเบิดมีขึ้นในบริเวณที่มีร้านอาหารและร้านค้าปลีกตั้งอยู่จำนวนมาก และคาร์บอมบ์คันนี้จอดอยู่” เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพี "
“ท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คนและประชาชนมากมายที่กำลังจับจ่ายซื้อ บางส่วนก็กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหาร นั่นคือ เหตุผลทำไมจึงมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เหตุโจมตีครั้งนี้นับเป็นเหตุระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายน โดยหนนั้นมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 รายในเมืองหลวงจากการโจมตีด้วยระเบิดหลายระลอกในเวลาไล่เลี่ยกัน
แม้ว่าความรุนแรงได้เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว แต่อิรักยืนยันว่ากำหนดถอนทหารของสหรัฐฯจะไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากกองทัพสหรัฐฯวางแผนเริ่มถอนทหารอย่างสมบูรณ์ในช่วงสิ้นปี 2011
เมื่อเร็วๆ นี้ การโจมตีในแบกแดด ส่วนใหญ่มีเป้าหมายเป็นพื้นที่ชุมชนชาวชีอะห์ ซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของอิรัก ทำให้เกิดข่าวลือเกี่ยวกับการหวนคืนของเหตุโจมตีตามรูปแบบของอัลกออิดะห์ที่มีเป้าหมายตอกย้ำแบ่งแยกนิกายที่เล่นงานประเทศจนซวนเซเมื่อสองปีก่อน
ทั้งนี้ เหตุระเบิดเมื่อวันพุธ (20) ยังมีขึ้นในช่วงที่ความรุนแรงในอิรักมีท่าทีลดลง โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมอันเงียบสงบแม้ว่าเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีการเสียเลือดเสียเนื้อมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2008 ก็ตาม
กองทัพอิรัก กล่าวโทษผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน สำหรับเหตุรุนแรงในเดือนเมษายน โดยอ้างว่าพวกเขาเหล่านั้นพยายามสร้างความเกลียดชังระหว่างชาวอิสลามนิกายชีอะห์ และสุหนี่
ขณะที่พรรคของนายกรัฐมนตรีชาวสุหนี่ นูรี อัล-มาลิกี ชี้ว่า เหตุโตมตีเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นการตอบโต้การจับกุม อาบู โอมาร์ อัล-แบกช์ดาดี แกนนำของกลุ่มอัลกออิดะห์
การโจมตีเกิดขึ้นบริเวณด้านนอกของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ย่านShula พื้นที่ของชาวมุสลิมชีอะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงอิรัก โดยมีผู้เสียชีวิต 34 รายและบาดเจ็บ 72 คน เจ้าหน้าที่บอก
“เหตุระเบิดมีขึ้นในบริเวณที่มีร้านอาหารและร้านค้าปลีกตั้งอยู่จำนวนมาก และคาร์บอมบ์คันนี้จอดอยู่” เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพี "
“ท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คนและประชาชนมากมายที่กำลังจับจ่ายซื้อ บางส่วนก็กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหาร นั่นคือ เหตุผลทำไมจึงมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เหตุโจมตีครั้งนี้นับเป็นเหตุระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายน โดยหนนั้นมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 รายในเมืองหลวงจากการโจมตีด้วยระเบิดหลายระลอกในเวลาไล่เลี่ยกัน
แม้ว่าความรุนแรงได้เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว แต่อิรักยืนยันว่ากำหนดถอนทหารของสหรัฐฯจะไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากกองทัพสหรัฐฯวางแผนเริ่มถอนทหารอย่างสมบูรณ์ในช่วงสิ้นปี 2011
เมื่อเร็วๆ นี้ การโจมตีในแบกแดด ส่วนใหญ่มีเป้าหมายเป็นพื้นที่ชุมชนชาวชีอะห์ ซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของอิรัก ทำให้เกิดข่าวลือเกี่ยวกับการหวนคืนของเหตุโจมตีตามรูปแบบของอัลกออิดะห์ที่มีเป้าหมายตอกย้ำแบ่งแยกนิกายที่เล่นงานประเทศจนซวนเซเมื่อสองปีก่อน
ทั้งนี้ เหตุระเบิดเมื่อวันพุธ (20) ยังมีขึ้นในช่วงที่ความรุนแรงในอิรักมีท่าทีลดลง โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมอันเงียบสงบแม้ว่าเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีการเสียเลือดเสียเนื้อมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2008 ก็ตาม
กองทัพอิรัก กล่าวโทษผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน สำหรับเหตุรุนแรงในเดือนเมษายน โดยอ้างว่าพวกเขาเหล่านั้นพยายามสร้างความเกลียดชังระหว่างชาวอิสลามนิกายชีอะห์ และสุหนี่
ขณะที่พรรคของนายกรัฐมนตรีชาวสุหนี่ นูรี อัล-มาลิกี ชี้ว่า เหตุโตมตีเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นการตอบโต้การจับกุม อาบู โอมาร์ อัล-แบกช์ดาดี แกนนำของกลุ่มอัลกออิดะห์
