xs
xsm
sm
md
lg

ธนาคารใหญ่USดิ้นอยากคืนเงินกู้รบ. ต้องการเป็นอิสระไม่ถูกภาครัฐคุมเข้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป้ายถนนหนทางตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของมอร์แกนสแตนเลย์ในนครนิว ยอร์ก ขณะที่บรรดาแบงก์ใหญ่ๆ พยายามเตรียมขอคืนเงินกู้แก่รัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเป็นอิสระจากการคุ้มเข้ม
เอเจนซี - ธนาคารใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ กำลังยื่นขออนุมัติคืนเงินกู้รัฐบาลที่ปล่อยมาช่วยชีวิตภาคการเงิน เพราะต้องการเป็นอิสระจากการคุมเข้มของรัฐ โดยล่าสุดเจพีมอร์แกนเชส ออกมาคาดหมายอย่างชัดเจนว่า จะได้รับไฟเขียวและเริ่มจ่ายเงินคืนทางการได้ภายในสองสามสัปดาห์ข้างหน้า

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ระบุว่า ตอนนี้บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงินการธนาคาร กำลังหารือกับธนาคารใหญ่หลายแห่งซึ่งต้องการจะคืนเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลปล่อยให้ภายใต้ โครงการบรรเทาสินทรัพย์ที่มีปัญหา (TARP) และน่าจะมีการรายงานเรื่องการคืนเงินให้รัฐบาลในราววันที่ 8 มิถุนายนนี้

บุคคลที่ทราบเรื่องดีบอกกับรอยเตอร์ว่า โกลด์แมนแซคส์, มอร์แกนสแตนลีย์, และเจพีมอร์แกนเชส ได้ยื่นขออนุมัติคืนเงินกู้ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่ธนาคารทั้งสามยังไม่ขอให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับข่าวนี้

อย่างไรก็ดี เมื่อวันอังคาร (19) เจมส์ ดิมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกนเชส ก็ได้กล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า เขาคาดหมายว่าพวกหน่วยงานกำกับดูแลน่าจะอนุมัติให้ธนาคารที่แข็งแกร่งสองสามแห่งคืนเงินภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

"เราเชื่อว่าเราสามารถคืนและควรที่จะคืนเงินกู้TARP" ดิมอนกล่าว "เราเชื่อว่ารัฐบาลจะยอมให้ธนาคารที่มีเงินทุนมั่นคงคืนเงินTARPได้ในอีกสองสามสัปดาห์ที่จะถึงนี้"
หุ้นของเจพีมอร์แกนปิดลดลง 1.45 ดอลลาร์หรือ 3.89%เมื่อวันพุธหลังข่าวนี้ออกมา

"ตอนนี้มีหลายธนาคารที่กำลังเจรจาเรื่องการคืนเงิน" เกรก โดนัลด์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์การลงทุนของโดนัลด์สัน แคปิตอล แมเนจเมนท์ ในเมืองอีแวนสวิลล์ มลรัฐอินดีแอนากล่าว

ข้อดีของการจ่ายเงินคืนรัฐบาลก็คือ สามารถที่จะกลับมีอิสระในหลายเรื่อง ๆ เป็นต้นว่า การให้ค่าตอบแทนแก่ผู้บริหาร และการจ้างพนักงานชาวต่างชาติเข้ามาทำงานให้

"แม้ว่าการคืนเงินจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท แต่ก็ยังมีข้อดีอีกหลายด้านที่ธนาคารสามารถนำเอาใช้เป็นประโยชน์ได้" โดนัลด์สันกล่าว

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อที่ไม่ต้องมีใครมาคอยควบคุมการดำเนินงานในบริษัทเหล่านี้อย่างเข้มงวดอีกต่อไป" แบรด ฮินท์ซ นักวิเคราะห์แห่งสแตนฟอร์ด ซี เบิร์นสไตน์ ในนิวยอร์กชี้

"สิ่งที่ผมบอกต่อลูกค้าก็คือ คุณจะต้องเป็นรายแรก ๆที่หลุดจาก TARP และคุณจะต้องระวังไม่ได้เป็นรายสุดท้ายเป็นอันขาด" ฮินท์ซกล่าว

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐฯก้าวเข้ามาแทรกแซงธนาคารโดยให้เงินช่วยเหลือกอบกู้สถานการณ์รวมเป็นจำนวนถึง 125,000 ล้านดอลลาร์ แก่ธนาคารใหญ่ 9 แห่งของสหรัฐฯที่ประสบปัญหาสภาพคล่องขาดแคลนอย่างรุนแรง ความช่วยเหลือนี้เป็นส่วนหนึ่งในมาตรการกอบกู้ภาคเงินของประเทศมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่ออกมาหลังเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มครืน บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลต้องการให้ธนาคารมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะการให้กู้ยืมเงินในช่วงเศรษฐกิจถดถอย

แหล่งข่าวในเฟดกล่าวว่า ธนาคารที่ขอคืนเงินกู้ล้วนแล้วแต่เป็นธนาคารที่ทางการเข้าตรวจสอบความแข็งแกร่งในการรับมือกับวิกฤตรอบใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งหน่วยกำกับดูแลจะต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของธนาคารเหล่านี้และนำเสนอต่อกระทรวงการคลังอีกครั้งว่าจะอนุมัติตามคำขอคืนเงินหรือไม่

ก่อนที่ธนาคารจะคืนเงินได้ จำต้องแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถที่จะระดมเงินจากภาคเอกชนได้โดยไม่ต้องให้รัฐบาลช่วยค้ำประกัน

แต่เจ้าหน้าที่ทางการหลายคนก็แสดงความกังวลว่า ความต้องการที่เป็นอิสระจากรัฐบาล ทำให้ธนาคารรีบคืนเงินมากเกินไป และในที่สุดก็อาจจะต้องกลับไปพึ่งรัฐบาลอีกครั้ง เพราะยังไม่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น