เอเจนซี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา กล่าวสนับสนุนการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ระหว่างหารือกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูเมื่อวันจันทร์ (18) ผู้เป็นหลักสำคัญต่อนโยบายตะวันออกกลางของวอชิงตัน ในการพบปะกันครั้งแรกหลังจากทั้งคู่เข้ารับตำแหน่ง
ผู้นำสหรัฐฯ และอิสราเอล ปิดประตูหารือกันเพียงลำพังในห้องทำงานรูปไข่ราว 1 ชั่วโมง สำหรับความพยายามกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในการพบกันครั้งแรกนับตั้งแต่ทั้งสองคนก้าวสู่อำนาจ ก่อนเรียกผู้ช่วยด้านความมั่นคงแห่งชาติเข้าไปยังห้องเพื่อพูดคุยต่อระดับเจ้าหน้าที่
“เราพูดคุยกับถึงการกลับมาเริ่มต้นเจรจาอย่างจริงจังในประเด็นอิสราเอลและปาเลสไตน์” โอบามากล่าว พร้อมระบุว่ามันคือการหารือบนผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายเพื่อบรรลุถึงแนวทางสองรัฐ ในแผนการสร้างสันติภาพแก่ตะวันออกกลาง
โอบามา ซึ่งให้แถลงต่อผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ที่มี เนทันยาฮู ยืนอยู่ข้างๆ ยังได้ย้อนความทรงจำให้อิสราเอลระลึกถึงพันธสัญญาของพวกเขาภายใต้ข้อตกลงสันติภาพ 2003 ที่สหรัฐฯหนุนหลัง ยุติการย้ายถิ่นฐานชาวยิวเข้าไปยังเขตเวสต์แบงก์
ขณะที่ เนทันยาฮู ย้ำว่า เขาสนับสนุนการปกครองตนเองของชาวปาเลสไตน์ แต่ไม่ได้พาดพิงถึงการก่อตั้งรัฐ จุดยืนที่เน้นให้เห็นความแตกแยกที่พบเห็นไม่บ่อยนักในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและอิสราเอล"เราไม่ต้องการปกครองชาวปาไลสเตน์ เราอยากให้พวกเขาปกครองตนเอง” เนทันยาฮู กล่าว
โอบามา มองว่า กระบวนการสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามซ่อมแซมภาพลักษณ์ของสหรัฐฯต่อโลกมุสลิม และโน้มน้าวชาติอาหรับเข้าร่วมกันต่อต้านอิหร่าน
ทั้งนี้ ประเด็นอิหร่านก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายหยิบยกมาหารือกัน
ด้วยบรรดาผู้นำของอิสราเอลมีความเคลือบแคลงต่อความพยายามของโอบามา ในการประสานทางการทูตกับอิหร่าน เนทันยาฮู จะเน้นถึงความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นของอิสราเอลต่อนิวเคลียร์อิหร่าน เจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยก่อนหน้าการหารือ
ในเรื่องนี้ โอบามา กล่าวหลังจากหารือกับเนทันยาฮู ว่าเขามองไม่เห็นเหตุผลที่จะขีดเส้นตายจอมปลอมสำหรับแนวทางการทูตต่ออิหร่าน แต่สหรัฐฯ ก็หวังเห็นความคืบหน้ากับเตหะรานในช่วงสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ไม่ได้ปิดกั้นก้าวย่างต่างๆนาๆต่ออิหร่าน รวมไปถึงมาตรการคว่ำบาตรหากเตหะรานยังเดินหน้าโปรแกรมนิวเคลียร์ ซึ่งวอชิงตันมองว่ามีเป้าหมายผลิตอาวุธปรมาณู แต่อิหร่านบอกว่าเป็นโครงการสันติภาพ