เอเจนซี – องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เผยห้องปฏิบัติการชี้ชัดมีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 985 ราย ใน 20 ประเทศ โดยรวมเอลซัลวาดอร์ และโคลัมเบีย เป็น 2 ประเทศล่าสุด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโกเพิ่มเป็น 25 รายแล้ว
ยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของทาง WHO ออกมาช้ากว่ารายงานของแต่ละประเทศ แต่ได้รับการพิจารณาว่ามีความน่าเชื่อถือตามหลักวิทยาศาสตร์มากกว่า โดยตัวเลขผู้ป่วยในเม็กซิโก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด ที่เพิ่มขึ้นใน 2-3 วันที่ผ่านมานั้น เนื่องมากจากผลพิสูจน์ตัวอย่าง ที่ออกมาจากห้องแล็บ ไม่ใช่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่
ตัวเลขล่าสุดระบุว่า ผู้ติดเชื้อในเม็กซิโกมี 590 คน สหรัฐฯ 226 คน โดยทั้งสองประเทศนี้เป็นพื้นที่ที่มีการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมากที่สุด และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ 1 ราย เป็นเด็กทารกชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตนอกเม็กซิโกรายแรก
นอกจากนี้ WHO ยังยืนยันยอดผู้ติดเชื้อ โดยไม่มียอดเสียชีวิต ในหลายประเทศ ดังต่อไปนี้ ออสเตรีย 1 ราย แคนาดา 85 ฮ่องกง 1 คอสตาริกา 1 โคลอมเบีย 1 เดนมาร์ก 1 เอลซัลวาดอร์ 2 ฝรั่งเศส 2 เยอรมนี 8 ไอร์แลนด์ 1 อิสราเอล 3 อิตาลี 1 เนเธอร์แลนด์ 1 นิวซีแลนด์ 4 เกาหลีใต้ 1 สเปน 40 สวิตเซอร์แลนด์ 1 และอังกฤษ 15 ราย
ขณะที่อนามัยโลกยังรอหลักฐานการแพร่ระบาดของไวรัสนอกภูมิภาคอเมริกาเพิ่มเติม ก่อนที่จะตัดสินใจยกระดับการเตือนภัยโรคระบาดจากขั้น 5 เป็น 6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ซึ่งจะประกาศให้ไข้หวัดใหญ่ H1N1 นี้เป็นโรคระบาดอย่างสมบูรณ์
ในวันอาทิตย์ (3) ที่ผ่านมา เกรกอรี ฮาร์เทล โฆษกของ WHO ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการติดเชื้อในสเปนที่มีเป็นจำนวนมาก ว่าเป็นเพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อหลังกลับจากเม็กซิโก แต่ยังไม่มีสถานการณ์ของการแพร่ระบาดไวรัสในหมู่ประชากรของสเปน