xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ศรีลังกา รุกหนัก-2 บิ๊กทมิฬมอบตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทัพศรีลังกาอ้างว่าได้เข้าช่วยเหลือพลเรือนออกมาได้ถึง 81,420 คนในสัปดาห์นี้
เอเอฟพี - กองทหารศรีลังกาเพิ่มความกดดันในการโจมตีรอบสุดท้ายต่อกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬเมื่อวันนี้ (22) โดยที่มีเจ้าหน้าที่สำคัญของพวกกบฏ 2 คนยอมออกมามอบตัว ในขณะที่ทั่วโลกต่างหวั่นวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของพลเรือนนับหมื่นๆ ซึ่งตกอยู่ในฐานะเป็นกันชน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มปลดปล่อยพยัคฆ์ทมิฬ (แอลทีทีอี) 2 คนที่ยอมจำนน ได้แก่ เวลายูดัม ดายานิดิ หรือรู้จักกันมากกว่าในนาม ดายา มาสเตอร์ บุคคลผู้นี้เป็นหัวหน้าโฆษกของกลุ่ม ทำหน้าที่แถลงข่าวต่อทั่วโลก

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ผู้ช่วยคนหนึ่งของ เอส.พี.ทมิฬเซลวัน อดีตหัวหน้าฝ่ายการเมืองของพยัคฆ์ทมิฬซึ่งล่วงลับไปแล้ว

โฆษกของกระทรวงกลาโหม เคเฮลิยา รัมบุคเวลลา ระบุว่า มีประชาชนกว่า 80,000 คน หลบหนีออกมาจากพื้นที่ยึดครองของกองกำลังแบ่งแยกดินแดน ซึ่งยังเหลือพื้นที่อีกไม่มากนัก โดยที่กองทัพของรัฐบาลได้เข้าไปช่วยเหลือ และไม่ได้ทำร้ายผู้ที่ติดอยู่ในเขตสู้รบ

“ปฏิบัติการช่วยเหลือพลเรือนยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง” เขาบอกและกล่าวด้วยว่าในขณะนี้กลุ่มแอลทีทีอี มีพื้นที่ยึดครองเหลืออยู่เพียง 12 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น โดยสูญเสียศักยภาพทางการทหารไปหมดแล้ว ในขณะที่รัฐบาล “เชื่อมั่นอย่างยิ่ง” ว่า เวลลุพิลไล ประภาการัน ผู้นำวัย 54 ปีของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬก็ยังคงอยู่ภายในพื้นที่ดังกล่าวด้วย

ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมได้กำหนดเส้นตายให้กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬยอมจำนนในวันอังคาร แต่กลุ่มกบฏเพิกเฉย และยังเปิดการสู้รบต่อเนื่อง โดยรัฐบาลรายงานว่ากลุ่มพยัคฆ์ทมิฬเสียชีวิตไป 8 คน และฝ่ายทหารของรัฐบาลเสียชีวิต 2-3 คน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ ได้กล่าวหาว่า รัฐบาลศรีลังกาสังหารพลเรือนไปกว่า 1,000 คน ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ส่วนกองทัพศรีลังกา อ้างว่า ได้เข้าช่วยเหลือพลเรือนออกมาได้ถึง 81,420 คน ในสัปดาห์นี้ และผู้ที่หลบหนีออกมายังถูกฝ่ายกบฏยิงใส่อีกด้วย เพราะต้องการกันคนเหล่านี้ไว้เป็นโล่มนุษย์

การกล่าวอ้างของทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากผู้สื่อข่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่สู้รบ ส่วนหน่วยงานบรรเทาทุกข์ก็เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่างมาก

“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ถือว่าเป็นหายนภัย” ปิแอร์ แครเฮนบูห์ล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของคณะกรรมการกาชาดสากล ระบุ

“สิ่งที่เราเห็นก็คือการสู้รบกันอย่างดุเดือดในพื้นที่สู้รบแคบๆ ซึ่งมีพลเรือนอยู่กันหนาแน่น จนพวกเขาต้องหลบหนีกันออกมา”

เขายังคาดด้วยว่า ยังมีพลเรือนอีกกว่า 10,000 คนติดค้างอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายกบฏ

ส่วนสหประชาชาติและอีกหลายประเทศได้ออกมาเรียกร้องให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬหยุดการกราดยิงใส่กัน โดยบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติเข้าไปในพื้นที่เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือแก่พลเรือนที่หลบหนีออกมาด้วย

นอกจากนั้น ยังมีการประท้วงในประเทศต่างๆ ด้วย เช่น ชาวทมิฬในกรุงออตตาวา แคนาดา จำนวน 30,000 คน ได้ออกมาประท้วงการกระทำของรัฐบาลศรีลังกา อีกทั้งมีการประท้วงในลอนดอน และปารีส ด้วยเช่นกัน

กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ เคยมีชื่อเสียงว่า เป็นกองกำลังแบบกองโจรที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก พวกเขาต้องการแยกดินแดนของชาวทมิฬให้เป็นอิสระจากรัฐบาลศรีลังกา และเริ่มการสู้รบมาตั้งแต่ปี 1972 โดยรัฐบาลนอร์เวย์เคยเข้ามาเป็นคนกลางช่วยเจรจาสงบศึกระหว่างทั้งสองฝ่ายอยู่แต่ก็ต้องล้มเลิกไปเมื่อเดือนธันวาคม 2005 และหลังจากนั้น ฝ่ายกบฏก็กลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเรื่อยมา

กำลังโหลดความคิดเห็น