เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ให้คำมั่นในวันนี้ (5) ว่า จะเป็นผู้นำในการแสวงหาโลกซึ่งปลอดอาวุธนิวเคลียร์ และยังประณามแนวความคิดที่ให้ปล่อยเลยตามเลยในเรื่องการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งเรียกร้องให้ลงโทษเกาหลีเหนือที่ทำการยิงจรวดขีปนาวุธ
“ในฐานะที่เป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ประเทศเดียวที่เคยใช้อาวุธนี้มาก่อน สหรัฐฯ มีความรับผิดชอบในเชิงศีลธรรมที่จะต้องดำเนินการเรื่องนี้” โอบามา กล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป-สหรัฐฯ ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก
“เราไม่สามารถบรรลุความพยายามดังกล่าวได้โดยลำพัง แต่เราสามารถเป็นผู้นำได้ ดังนั้น ผมจึงขอกล่าวอย่างชัดเจนและด้วยความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าอเมริกามีพันธกิจและความปรารถนาที่จะแสวงหาสันติภาพและความมั่นคงของโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์”
เขายังระบุว่า ต้องการให้มีการหยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ทันที และย้ำความมุ่งมั่นของเขาที่จะเสนอให้วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านความเห็นชอบต่อสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (Comprehensive Test Ban Treaty) อีกทั้งเขายังต้องการให้จัดประชุมสุดยอดทั่วโลกว่าด้วยความปลอดภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ภายในปีหน้าด้วย
“ผมไม่ได้ไร้เดียงสาถึงกับไม่รู้ว่าเป้าหมายดังกล่าว (การทำให้โลกปลอดอาวุธนิวเคลียร์) ไม่สามารถบรรลุผลได้โดยเร็ว อีกทั้งอาจจะเป็นไปไม่ได้ในชั่วชีวิตของผมด้วยซ้ำ แต่การไม่ทำอะไรเพื่อยับยั้งการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ก็ไม่ใช่ทางเลือกเช่นกัน”
ทั้งนี้ โอบามาต้องตื่นขึ้นมาตั้งแต่เวลา 04.30 น.ของวันอาทิตย์ (5) เพื่อรับฟังรายงานเรื่องการยิงจรวดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือข้ามประเทศญี่ปุ่น เขาบอกว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือต้องชดใช้การกระทำดังกล่าว และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อแสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรง
“การยั่วยุดังกล่าวเน้นให้ว่าเราจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตอบโต้ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่จากที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่จากความมุ่งมั่นของพวกเราที่จะป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์อีกต่อไป” เขากล่าวอีกว่า “เราต้องทำตามกฎเกณฑ์ ผู้ฝ่าฝืนต้องถูกลงโทษ เพื่อให้คำพูดมีความหมายแท้จริง”
นอกจากนั้น โอบามา ยังกล่าวถึงการยิงจรวดขีปนาวุธของโสมแดงกับประธานาธิบดี วาคลาฟ คลอส และ นายกรัฐมนตรี มิเรค โทโปลาเนค แห่งสาธารณรัฐเช็ก ว่า “เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธไปเมื่อตอนเช้า ซึ่งเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นการทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ”
โอบามา บอกว่า ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีการต่างประเทศของสหรัฐฯ และซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ จะติดต่อกับมิตรประเทศและพันธมิตรของสหรัฐฯ เพื่อประสานงานก่อนการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯ
อย่างไรก็ตาม โอบามา ให้คำมั่นด้วยว่า จะดำเนินการผลักดันแผนการติดตั้งระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกลในยุโรปตอนกลางต่อไป โดยยึดหลักประหยัดค่าใช้จ่ายแต่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากภัยคุกคามจากอิหร่านนั้นมีอยู่จริง และไม่ได้คุกคามเฉพาะสหรัฐฯ เท่านั้น แต่รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านของอิหร่าน และพันธมิตรของสหรัฐฯ ด้วย
เขายังกล่าวชมสาธารณรัฐเช็ก และ โปแลนด์ ที่มีความกล้าหาญยอมตกลงให้ติดตั้งระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธดังกล่าวด้วย
ก่อนหน้านี้ ในสมัยของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช รัสเซียเคยแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการติดตั้งระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้ จนทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศหมางเมินไปมาก เนื่องจากรัสเซียมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัสเซียเช่นกัน