เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเมื่อวันอังคาร (17) โดยไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ปิดเหนือ 49 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางความคาดหมายว่าโอเปกอาจลดกำลังผลิตในเดือนพฤษภาคม ตามหลังภาวะการช้อนซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไรในวอลล์สตรีท ที่ส่งผลให้ดาวโจนส์ดีดตัวเกือบ 200 จุด
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน กระโดดขึ้น 1.81 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังช่วงหนึ่งของการซื้อขายดีดตัวไปถึง 49.28 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ส่วนเบรนต์ของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.24 ดอลลาร์ ขณะที่งวดส่งมอบเดือนเมษายน ซึ่งหมดอายุสัญญาเมื่อวันจันทร์(16) ปิดที่ 43.98 ดอลลาร์
องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ซึ่งผลิตน้ำมัน 40 เปอร์เซ็นต์ของโลก ประชุมกันเมื่อวันอาทิตย์ (15) และมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบในปัจจุบันไว้จนถึงเดือนพฤษภาคม แต่จะหันมาตัดลดการผลิตถึงขีดสุด 4.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามข้อตกลงที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันเสียก่อน
ทั้งนี้ โอเปกเลือกที่เลื่อนการตัดสินใจใดๆ ออกไป และเรียกให้จัดประชุมพิเศษในวันที่ 28 มีนาคม ที่รัฐมนตรีน้ำมันของแต่ละชาติจะมาประเมินสถานการณ์ตลาดกันอีกครั้ง
นายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี เลขาธิการโอเปกเมื่อวันจันทร์ (16) เรียกร้อง “ลงมือปฏิบัติไม่ใช่แค่คำพูด” จากบรรดาผู้นำชาติต่างๆ ในความพยายามฉุดดึงโลกออกจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
“เรายังไม่เห็นพฤติกรรมในทางบวกใดๆจากประเทศที่สร้างปัญหานี้ขึ้นมา” อัล-บาดรี กล่าว “เราได้ยินแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมากมาย แผนปล่อยกู้ธนาคารต่างๆ...แต่เรายังไม่เห็นสัญญาณในทางบวกใดๆ เลย” เขากล่าว “เราอยากเห็นการลงมือทำ ไม่ใช่แค่คำพูด”
ด้านวอลล์สตรีทเมื่อวันอังคาร (17) ปิดตลาดในแดนบวก หลังตัวเลขการขออนุญาตปลูกสร้างอาคารและเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ จุดประกายความหวังว่าวิกฤตเศรษฐกิจกำลังคลี่คลาย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ดีดตัว 178.81 จุด (2.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,395.78 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 24.20 จุด (3.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 778.09 จุด ขณะที่ แนสแดก ปิดตลาด เพิ่มขึ้น 58.09 จุด (4.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,462.11 จุด
การปรับตัวในแดนบวกของตลาดมีขึ้นหลังมีข้อมูลที่เปิดเผยว่าจำนวนการขอใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารและเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ สูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ขยับตัวขึ้นมาจากสถิติต่ำสุดในรอบ 50 ปี ถือเป็นสัญญาณในทางบวกของตลาดบ้านอันซบเซาที่เป็นศูนย์กลางของวิกฤตการเงินโลก