เอเจนซี - เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของสาธารณรัฐเช็กและชาติอื่นๆในยุโรปหลายพันคน รวมตัวกันในกรุงปรากเมื่อวันพฤหัสบดี(12) ประท้วงเรียกร้องราคานมที่สูงขึ้นและขอเงินอุดหนุนจากสหภาพยุโรปเพื่อเพิ่มรายได้หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจากเยอรมนี ออสเตรีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย และโปแลนด์ เดินขบวนไปทั่วเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก เพื่อก่อแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อผู้กำหนดนโยบายให้มอบความช่วยเหลือมากยิ่งขึ้น
สาธารณรัฐเช็ก เป็นประธานหมุนเวียนสหภาพยุโรปชาติปัจจุบัน
ฝูงชน คาดหมายว่าประมาณ 8,000 คน จากสภากสิกรรมสาธารณเช็ก ถือป้านประท้วงที่มีข้อความว่า "เราต้องการราคานมที่สูงขึ้น ไม่ได้มาฟังคำบ่ายเบี่ยง" และ "นมของเรามีราคาต่ำกว่าลัตเวีย?" อ้างถึงประเทศที่เศรษฐกิจย่ำแย่จนต้องขอเงินช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและอียู
ผู้ประท้วงได้เทนมและปุ๋ยประท้วง ณ กระทรวงกสิกรรม
สภากสิกรรมสาธารณเช็กกล่าวว่าราคานมของพวกเขาตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ประเทศได้เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปในปี 2004 และด้วยสถานการณ์เช่นนี้ทำให้เกษตรกรรายย่อยตกอยู่ในความเสี่ยง
เกษตรกรบอกว่าพวกเขาหวังได้รับประกันราคานมต่ำสุด 40 เซนต์(ยูโร) มากกว่าราคาตลาดซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 20 เซนต์(ยูโร) 2 เท่า พวกเขายังได้เรียกร้องขอเงินอุดหนุนโดยตรงแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและเงินช่วยเหลือที่มากขึ้นจากอียู ที่จะสามารถเพิ่มอุปสงค์และพยุงราคาไว้
ทั้งนี้ผู้ประท้วงยังได้เทนมและข้าวประท้วงบริเวณด้านนอกของโรงแรมแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นสถานที่หารือระหว่างนายฟิสเชอร์ โบเอล กรรมาธิการการเกษตรสหภาพยุโรปกับนายปีเตอร์ กันดาโลวิช รัฐมนตรีเกษตรของสาธารณรัฐเช็ก โดยจากนั้นนายฟิสเชอร์ ได้พบกับตัวแทนของกลุ่มเกษตรกรและให้สัญญาว่าจะมีการหารือเพิ่มเติมที่กรุงบรัสเซลส์สัปดาห์หน้า
ในสาธารณรัฐเช็ก ไม่เคยมีเหตุประท้วงนักในช่วงทศวรรษนี้ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างรวดเร็วไล่ตามชาติแถบยุโรปตะวันตกผู้มั่งคั่ง แต่ด้วยวิกฤตเศรษฐกิจทำให้มีคนตกงานเพิ่มขึ้นและประชาชนเริ่มไม่พอใจ โดยคนงานจากสหภาพอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งเป็นสหภาพใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้แจ้งว่าจะมีการประท้วงครั้งใหญ่ในเดือนพฤษภาคมนี้