เอเอฟพี - เครื่องวัดระยะความสูงทำงานผิดพลาด คือ สาเหตุที่ทำให้เครื่องบินสายการบินตุรกีประสบอุบัติเหตุเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังลองจอดที่สนามบินสคิปโฟลของกรุงอัมสเตอร์ดัม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 80 คน หน่วยสืบสวนเปิดเผยเมื่อวันพุธ (4)
เครื่องวัดระดับความสูงถ่ายทอดข้อมูลผิดให้แก่ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ จนเป็นเหตุให้เครื่องยนต์เบาเครื่องลงพร้อมสำหรับการสัมผัสพื้น ทั้งที่ยังอยู่ห่างจากรันเวย์
นักบินซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ มีปฏิกิริยาตอบกลับต่อคำเตือนล่าช้าเกินไป และล้มเหลวในความพยายามดึงเครื่องบินขึ้น ปีเตอร์ ฟาน โฮลเลนโฮเฟน หัวหน้าศูนย์ความปลอดภัยทางอากาศของเนเธอร์แลนด์ บอกกับผู้สื่อข่าว
ฟาน โฮลเลนโฮเฟน กล่าวว่าสภาพอากาศอันย่ำแย่จากเฆฆและหมอกหนาระดับต่ำ เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นพื้นดินของนักบินและจริงๆ คือ พวกเขาบินต่ำเกินไป
เขากล่าวต่อว่า นักบินเพิกเฉยต่อข้อบกพร่องของเครื่องวัดระดับความสูง ทั้งที่เครื่องบินลำเดียวกันนี้เคยเกิดกรณีเครื่องวัดระดับความสูงผิดพลาดมาแล้วถึง 2 ครั้ง
“เครื่องบันทึกเสียงสนทนาและกล่องดำ ที่ส่งไปตรวจสอบยังศูนย์ความปลอดภัยทางอากาศ พบว่าเครื่องบินเกิดเหตุขัดข้องระหว่างไต่ระดับลงมาที่ 1,950 ฟุต” เขากล่าว “ณ ระดับ 1,950 ฟุต เครื่องวัดระดับความสูงด้านซ้ายแสดงระยะความสูงที่เปลี่ยนไป -- จาก 1,950 ฟุต เป็น -8 ฟุต และส่งมันไปยังระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ”
ระดับความสูงที่เปลี่ยนไปนี้ส่งผลกระทบโดยเฉพาะต่อระบบควบคุมการบินอัตโนมัติระหว่างปรับระดับความสูง
หัวหน้าศูนย์ความปลอดภัยทางอากาศของเนเธอร์แลนด์ กล่าวต่อว่า เมื่อเครื่องบินอยู่ในระดับความเร็วต่ำสุดได้มีสัญญาณเตือนขึ้นมา “กล่องดำแสดงให้เห็นว่าได้มีความพยายามกู้พลังงานคืนมาในทันที อย่างไรก็ตามมันสายเกินไปที่จะดึงเครื่องขึ้น เครื่องบินอยู่ในระดับต่ำเกินไปและด้วยเหตุนั้นเองทำให้โบอิ้งตกห่างจากรันเวย์ราว 1 กิโลเมตร”
เครื่องบินโบอิง 737-800 เส้นทางจากอิสตันบุลถึงอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 127 คนและลูกเรือ 7 คน พุ่งกระแทกพื้น ณ ความเร็ว 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เครื่องบินแตกออกเป็น 3 ชิ้น
ฟาน โฮลเลนโฮเฟน ระบุว่า ทางศูนย์ความปลอดภัยทางอากาศเคยเตือนโบอิงถึงความเสี่ยงสำหรับการใช้ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติกับเครื่องวัดระดับความสูงที่ขัดข้องไปแล้วก่อนหน้านี้