เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่อัยการของญี่ปุ่น บุกค้นสำนักงานเลือกตั้งของ อิชิโร โอซาวะ ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในวันพุธ (4) หลังจากที่เขาปฏิเสธไม่ทำตามเสียงเรียกร้องให้ลาออก ท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวกรณีการรับบริจาคเงินสนับสนุนทางการเมืองอย่างผิดกฎหมาย
โอซาวะ ซึ่งพรรค เดโมแครติก ปาร์ตี ออฟ แจแปน (ดีพีเจ) ของเขา กำลังได้คะแนนนิยมอย่างสูง จนน่าจะชนะการเลือกตั้งทั่วไปในปีนี้ ได้กล่าวโจมตีอย่างรุนแรงต่อรัฐบาลหัวอนุรักษนิยมของนายกรัฐมนตรี ทาโร อาโซะ โดยบอกว่า การสอบสวนคดีอาญาต่อทีมงานที่ช่วยงานเขาเช่นนี้ กระทำไปโดยมีแรงจูงใจทางการเมือง
ก่อนหน้านี้ ในวันอังคาร (3) ทาคาโนริ โอคุโบะ หัวหน้าเลขานุการของโอซาวะเพิ่งถูกจับกุมตัวไปขณะกำลังอยู่ในสำนักงานของกลุ่มผู้สนับสนุนทางการเมืองของโอซาวะ และปรากฏว่า หลังจากที่ผู้นำฝ่ายค้านเปิดแถลงข่าวประณามการเข้าจับกุมตัวผู้ช่วยคนดังกล่าว ทีมอัยการก็เดินทางไปยังสำนักงานเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งของโอซาวะ ซึ่งอยู่ที่เขตอิวาเตะ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือราว 400 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ทีมอัยการ ระบุว่า กลุ่มผู้สนับสนุนโอซาวะนั้น ต้องสงสัยว่า รับเงินบริจาคโดยผิดกฎหมายจากบริษัทก่อสร้างนิชิมัตสึ คอนสตรัคชั่น ในระหว่างปี 2003-2006 ซึ่งตามกฎหมายของญี่ปุ่น บริษัทต่างๆ สามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ แต่ห้ามการบริจาคให้กับนักการเมืองเป็นรายบุคคล หรือให้กับกลุ่มผู้ระดมเงินสนับสนุนของนักการเมือง
“ผมว่านี่เป็นการใช้อำนาจของอัยการอย่างไม่เป็นธรรม การจับกุมตัวและการตรวจค้นครั้งนี้เป็นการทำลายประชาธิปไตย” โอซาวะ กล่าว
นอกจากจับตัวผู้ช่วยคนสนิทของโอซาวะแล้ว ทีมอัยการยังได้จับกุมอดีตผู้จัดการ 2 คนของบริษัท นิชิมัตสึ โดยที่อดีตประธานกรรมการบริหารของบริษัท ก็ได้ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว และถูกฟ้องศาลด้วยข้อหาสั่งการให้พนักงานของบริษัทนำเงินเข้ามาจากต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย เพื่อเอาเข้ากองทุนปลอมหลายกองทุน ซึ่งแท้ที่จริงมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนนักการเมือง
การจับกุมต่อเนื่องดังกล่าวนับเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับพรรคดีเจพี ซึ่งกำลังมีคะแนนนิยมดีวันดีคืน โดยผลสำรวจความเห็นล่าสุด ระบุว่า พรรคมีโอกาสชนะการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้ และอาจทำให้พรรคลิเบอรัล เดโมแครติก ปาร์ตี (แอลดีพี) ต้องลงจากอำนาจหลังจากที่เป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่นมานานราวครึ่งศตวรรษ
เทตสีโร คาโตะ ศาสตราจารย์ด้านการเมืองแห่งมหาวิทยาฃัยฮิโตสีบาชิ กล่าวว่า “คำถามก็คือว่าพรรคดีพีเจจะยังสามารถเป็นพรรคการเมืองที่ไว้วางใจได้ต่อไปหรือไม่” เขายังแนะอีกว่า โอซาวะ ควรอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสายสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างนักการเมืองกับองค์กรต่างๆ ที่ให้เงินสนับสนุนแก่กองทุนทางการเมืองเหล่านั้น
คาโตะ เห็นว่า การจัดตั้งกองทุนปลอมเพื่อเป็นเครื่องมือให้การสนับสนุนแก่นักการเมือง เป็นปัญหาที่ลึกมากของการเมืองญี่ปุ่น และเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นจะทำให้ความไม่ไว้วางใจต่อการเมืองโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น
ด้าน โอซาวะ อ้างว่า เขารับเงินบริจาคจากองค์กรทางการเมืองของอดีตเจ้าหน้าที่ของนิชิมัตสึ ไม่ได้รับจากบริษัทดังกล่าวโดยตรง และกองทุนที่จัดตั้งขึ้นก็เป็นกองทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย
“การเข้ามาตรวจค้นโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าแบบนี้ ถูกจัดฉากขึ้นในช่วงเวลาที่คนพูดกันถึงเรื่องการเลือกตั้งทั่วไป” โอซาวะ ยืนยันต่อด้วยว่าคนของเขาไม่ได้ทำความผิด
ส่วนเขามีแผนจะลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคหรือไม่นั้น โอซาวะ ตอบว่า “ผมจะไม่ดำเนินการใดๆ เพราะเรื่องนี้”
ด้าน ทาเคโอะ คาวามูระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งในระบบการเมืองของญี่ปุ่น ถือเป็นบุคคลทรงอิทธิพลอันดับสองในรัฐบาลรองจากนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของโอซาวะทั้งหมด โดยบอกว่า “ญี่ปุ่นเป็นประเทศประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และเราปกครองประเทศภายใต้กฎหมาย”