เหตุจลาจลบังกลาเทศยุติลงแล้ว จนท.เร่งเก็บศพ-ค้นหาผู้สูญหาย

เอเจนซี - ร่างกายอันแหลกเหลวของเจ้าหน้าที่ทหาร 8 ราย ถูกพบอยู่ที่กองบัญชาการกองกำลังทหารพรานบีดีอาร์ของบังกลาเทศเมื่อวันศุกร์ (27) ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากก่อการกบฏแข็งข้อ ซึ่งปะทุขึ้นจากชนวนความขัดแย้งเรื่องค่าจ้างและโครงสร้างการบังคับบัญชา เท่าที่ยืนยันล่าสุดอยู่ที่ 23 ราย เจ้าหน้าที่หลายคนเผย


สถานการณ์ความไม่สงบคราวนี้ ถือเป็นบททดสอบสำคัญครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีหญิง เชก ฮาซินา ซึ่งต้องแบกรับความหวังของเหล่านักลงทุนและผู้บริจาคเงิน ที่ต้องการให้เกิดเสถียรภาพในบังกลาเทศ นับตั้งแต่เธอเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนก่อน ภายหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาเกือบ 2 ปีแห่งการปกครองในภาวะฉุกเฉินที่ได้รับการหนุนหลังจากฝ่ายทหาร

การก่อการกบฏแข็งข้อในเมืองหลวงธากายุติลงแล้วในคืนวันพฤหัสบดี (26) โดยฝ่ายกบฏยอมวางอาวุธ หลังจากผู้นำหญิงออกมาเรียกร้องให้พวกเขายอมวางอาวุธและกลับเข้าค่ายเข้ากรมกอง พร้อมกับยื่นข้อเสนอนิรโทษกรรมให้กับผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อแลกกับการยุติความรุนแรง

"การดำเนินชีวิตกลับคืนสู่ปกติแล้ว ผู้คนออกมาทำมาหากินกันตามเดิม" ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ซึ่งอยู่ที่เมืองซัลฮีต ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบังกลาเทศกล่าว

ที่กรุงธากา กิจกรรมต่าง ๆ ตามท้องถนนก็ปรากฏให้เห็นตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีทหารพรานบีดีอาร์จำนวนมากสูญหาย โดยรวมถึงผู้บัญชาการกองกำลังด้วย หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารชั้นผู้น้อยลุกฮือก่อเหตุกบฏแข็งข้อขึ้น ที่ค่ายกองกำลังทหารพรานเมื่อวันพุธ (25)

กำลังทหารที่มียานหุ้มเกราะและรถถังสนับสนุน เคลื่อนเข้าไปยังกองบัญชาการของทหารพรานบีดีอาร์ในกรุงธากาเมื่อช่วงเช้าตรู่ เพื่อค้นหาผู้ที่ยังคงสูญหายตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่หลายคนบอก

ด้านสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ซึ่งอ้างข้อมูลของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ทหาร 168 คน เข้าร่วมการประชุมที่กองบัญชาการบีดีอาร์ เพื่อเร่งคลี่คลายข้อพิพาทเรื่องค่าจ้างและโครงสร้างการบังคับบัญชา ขณะที่สองฝ่ายเปิดฉากยิงต่อสู้กันในวันพุธ (25)

มีรายงานจากหลายๆ ฝ่ายว่า ความไม่สงบครั้งนี้ปะทุขึ้น หลังจากทหารพรานซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว เข้าไปรายงานตัวต่อทางการเพื่อตกลงในเรื่องค่าจ้างและผลตอบแทนอื่นๆ รวมทั้งโครงสร้างการบังคับบัญชา โดยทหารพรานเหล่านี้เรียกร้องให้มีการแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาจากทหารพรานด้วยกันเอง แทนที่จะเป็นทหารประจำการของกองทัพดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้จึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น

เมื่อดูจากจำนวนของผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดในวันเกิดเหตุ (25) โดยที่มีศพถูกพบแล้ว 19 ราย และอีกกว่า 20 คนมีชีวิตรอด ทำให้ยอดผู้ที่ยังคงสูญหายยังมีจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ทางการเคยแถลงในวันพุธ(25)ว่า จากการสู้รบกันคราวนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน

ผู้รอดชีวิตรายหนึ่ง ซึ่งระบุชื่อตัวเองว่า พ.ต.ยาฮิด บอกว่า "กลุ่มกบฎสังหารเจ้าหน้าที่หลายสิบคน และโยนศพของพวกเขาลงไปในท่อระบายน้ำและคูคลอง บางศพถูกซ่อนอยู่ตามพุ่มไม้ หรือไม่ก็ฝังดิน”