เอเจนซี - เกิดน้ำท่วมหนักใน 3 รัฐใหญ่ของออสเตรเลีย หลังจากเกิดพายุฤดูร้อน ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมเสียหาย และการทำเหมืองแร่บางแห่งต้องหยุดชะงัก โดยความเสียหายเกิดขึ้นเพียงอาทิตย์เดียวหลังจากแดนจิงโจ้เพิ่งเผชิญกับไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 200 คน
ที่รัฐควีนสแลนด์ต้องเจอกับน้ำท่วมครั้งใหญ่นับตั้งแต่เดิอนธันวาคม 2008 โดย 62 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ต้องตกอยู่ภายใต้น้ำ หลังจากเกิดพายุและพายุฤดูร้อนหลายครั้ง คาดว่า ปศุสัตว์นับพันจะต้องตายลงไป ขณะที่ถนนหลายสายถูกตัดขาด โดยมีการประเมินความเสียหายมูลค่า 210 ล้านออสเตรเลีย หรือ 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่น้ำยังคงไม่มีท่าทีว่าจะลดลงไปอีกนานนับเดือน และมีการเตือนว่าอาจจะมีจระเข้ออกมาอาละวาดด้วย
นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ไม่ได้นำมาเฉพาะอุณหภูมิร้อนจัดของออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวน เช่น พายุฤดูร้อนที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขึ้นด้วย
ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก และผู้ผลิตน้ำตาลในควีนส์แลนด์ ซึ่งผลิตน้ำตาลถึง 95 เปอร์เซ็นต์กำลังจะต้องเจอกับความสูญเสียอย่างยิ่ง
ด้านฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ยังทำให้บริษัท ริโอทินโต ต้องระงับการทำเมืองแร่เหล็กและหยุดขนส่งสินค้าลงชั่วคราวในวันนี้ (17)
ด้าน พายุดีเปรสชันนอกชายฝั่งด้านตะวันออกในวันเดียวกันนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักในรัฐนิวเซาท์เวลลส์ จนทำให้น้ำในแม่น้ำเอ่อล้น และบ้านเรือนถูกตัดขาด โดยเจ้าหน้าที่ ระบุว่า บางเมืองนั้นเกิดน้ำท่วมหนักมากที่สุดในรอบ 20-30 ปี โดยในเมืองบูร์ค มีบันทึกว่าฝนตก 232 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นปริมาณมากกว่า 2 ใน 3 ของปริมาณฝนตกตลอดทั้งปีด้วย
