xs
xsm
sm
md
lg

แฟชั่น'ปารองเท้า'ยังฮิตไม่เลิก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อดีตประธานาธิบดีบุช หลบรองเท้าที่ขว้างเข้าใส่ได้อย่างทันควัน
เอเอฟพี - ไข่ ขนมพายคัสตาร์ด และมะเขือเทศเน่า เคยเป็นข้าวของที่พวกผู้ประท้วงนิยมใช้ปาใส่นักการเมืองที่ตนไม่ชอบหน้า แต่มาวันนี้ดูเหมือนว่ารองเท้าจะเป็นอาวุธสร้างความอับอายอย่างใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนก็เพิ่งเผชิญเหตุการณ์ที่ว่านี้ในระหว่างการเยือนอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และต่อมาเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสวีเดนก็ถูกปารองเท้าใส่เช่นกัน ทำให้นักการเมืองทั่วโลกเริ่มคิดหนักแล้วว่า "เราจะเป็นคนต่อไปรึเปล่านะ?"

ในวัฒนธรรมอาหรับนั้น พื้นรองเท้าถือว่าเป็นของต่ำและใช้แสดงการดูถูก ดังที่ชาวอิรักเคยใช้รองเท้าทุบใส่รูปปั้นของเผด็จการซัดดัม ฮุสเซนเมื่อปี 2003 มาแล้ว ทว่าทั่วโลกเพิ่งประจักษ์ถึงอานุภาพของการดูถูกเหยียดหยามนี้ เมื่อเกิดกรณีที่มุนตาเซอร์ อัล-ไซดี ผู้สื่อข่าวชาวอิรักวัย 29 ปี ปารองเท้าของเขาใส่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในระหว่างการเยือนอิรักครั้งสุดท้ายก่อนลงจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมปีที่แล้ว

หลังจากนั้นก็เกิดกระแสการปารองเท้าเพื่อต่อต้านการทำสงครามอีกหลายครั้งในอังกฤษ ทั้งที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเอดินบะระ และที่หน้าทำเนียบรัฐบาลอังกฤษ แต่ที่ฮือฮามากคือกรณีการปารองเท้าใส่เวิน เจียเป่า เมื่อวันจันทร์ (2) ในระหว่างที่เขากำลังกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ ส่งผลให้ผู้ก่อเหตุ คือ มาร์ติน จาห์นเค นักศึกษาปริญญาโทด้านอายุรแพทย์ ชาวเยอรมนีวัย 27 ปี ถูกจับกุมตัว และมีกำหนดการขึ้นศาลพิจารณาคดีในวันที่ 10 ก.พ. โดยเขาอาจถูกจำคุก 6 เดือน และปรับอีก 5,000 ปอนด์

นอกจากนั้น ในวันพฤหัสบดี (5) ก็มีเหตุปารองเท้าข้างหนึ่งใส่เบนนี ดาเกน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสวีเดน ในระหว่างที่เขากำลังกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยสตอกโฮล์ม ซึ่งเท่ากับว่าได้เกิดเหตุปารองเท้าใส่นักการเมืองระดับโลกทุกๆ สามวัน
คำถามก็คือว่า จะทำอย่างไรหากพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะแม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีจีนยังถูกปารองเท้าใส่มาแล้ว จึงเป็นไปได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับนักการเมืองในระดับรองๆ ลงมาอีกไม่รู้กี่ครั้งก่อนที่แฟชั่นนี้จะเลิกฮิต

อย่างไรก็ตาม รองเท้าเป็นของราคาแพงอย่างหนึ่ง ดังนั้นในภาวะที่เศรษฐกิจโลกถดถอยอยู่อย่างนี้ มาตรฐานของรองเท้าที่นำมาใช้ปาคงจะลดต่ำลงไปด้วย โดยผู้เคราะห์ร้ายอาจจะได้รับของที่ระลึกเป็นเพียงรองเท้าผ้าใบเก่าๆ ที่จวนเจียนจะถูกโยนทิ้งแล้ว หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ยิ่งต้องการดูถูกมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องใช้รองเท้าโทรมมากเท่านั้น

นอกจากตัวรองเท้าแล้ว วิธีการปาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง เพราะทั้งบุชและเวินนั้นเป็นกรณีที่ปาไม่ถูกเป้าหมาย และทั้งสองก็ดูเหมือนไม่แสดงท่าทีสะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บุชนั้นหลบรองเท้าที่ปามาทั้งสองข้างได้ทัน แม้จะอยู่ในระยะใกล้ แต่หลังจากนั้นเขาก็เพียงแค่ยักไหล่ และพูดตลกเกี่ยวกับขนาดของรองเท้า

ส่วนเวินนั้นยังคงกล่าวสุนทรพจน์แม้จะมีเสียงนกหวีดดังขึ้น หลังจากนั้นเขาก็หยุดชะงักเล็กน้อยและยิ้มเมื่อว่าเห็นผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวออกไป โดยเวินได้ชำเลืองมองรองเท้าที่ถูกปาขึ้นมาบนเวทีด้านขวาของเขาด้วยก่อนจะกล่าวว่า

"นักศึกษาทั้งหลาย พฤติกรรมอันน่ารังเกียจเช่นนี้ไม่สามารถที่จะมาขัดขวางมิตรภาพระหว่างจีนกับสหราชอาณาจักรได้" เวินได้รับการปรบมือให้ และกล่าวสุนทรพจน์ต่อไป

ประเด็นต่อไปก็คือ พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะป้องกันเหตุการณ์รองเท้าบินได้อย่างไร? จะต้องมีการถอดรองเท้าหน้างานที่มีบุคคลสำคัญๆ เข้าร่วมด้วยหรือไม่ และถึงทำเช่นนั้นก็ไม่อาจรับประกันว่าเหตุการณ์จะสงบเรียบร้อย เพราะผู้ที่ไม่พอใจก็ยังสามารถโห่ฮา หรือตะโกนไล่คนที่พวกเขาไม่ต้องการต้อนรับได้อยู่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น