เอเจนซี - ราคาน้ำมันดีดตัวแรงกว่า 6.6 เปอร์เซ็นต์ ปิดเหนือ 43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพุธ(21) เนื่องจากการลดกำลังผลิตลงอย่างแรงของโอเปกมีน้ำหนักมากกว่าหลักฐานเพิ่มเติมที่บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ตลาดหุ้นอเมริกาคึกคักหลังมีแรงซื้อเข้ามาจากกลุ่มเทคโนโลยี
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 43.55 ดอลลาร์ ปรับตัวสูงขึ้น 2.71 ดอลลาร์ ในวันแรกของการซื้อขายสัญญางวดส่งมอบเดือนมีนาคม ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน ดีดตัวขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โบเตลโฮ เดอ วาสคอนเซลอส รัฐมนตรีน้ำมันของแองโกลา หนึ่งในชาติสมาชิกโอเปกบอกว่าทางกลุ่มได้บังคับใช้การลดกำลังผลิตครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการผลักดันราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามีการลดกำลังผลิตอย่างมาก แต่คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยสต๊อกน้ำมันดิบ ณ จุดส่งน้ำมันตลาดสหรัฐฯในโอกลาโฮมา ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และได้ส่งแรงกดดันต่อราคาน้ำมันของอเมริกา
“ไม่อ้อมค้อมเลยนะ เราไม่ทราบปริมาณน้ำมันสำรองที่คัสฮิง โอกลาโฮมา ว่ากำลังไต่ทะลุเพดาน แต่การลดกำลังผลิตของโอเปกกำลังสร้างสมดุลใหม่ให้ตลาด” ทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์พลังงานจากซิตีฟิวเตอร์เพอร์สเปกทีฟ กล่าว
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับขึ้นมาอยู่เหนือ 8,000 จุดได้อีกครั้ง หลังนักลงทุนพอใจแถลงการณ์ของไอบีเอ็ม ที่คาดว่าจะทำผลกำไรในปีนี้ได้มากขึ้น ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่นเดียวกับ แอลเอ็ม อีริกสัน ที่คาดว่าจะมีผลประกอบการในปีนี้เป็นไปตามเป้า
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ อยู่ที่ระดับ 8,020.46 จุด เพิ่มขึ้น 71.37 จุด แนสแดค อยู่ที่ระดับ 1,460.10 จุด เพิ่มขึ้น 19.27 จุด และเอสแอนด์พี อยู่ที่ 813.89 จุด เพิ่มขึ้น 8.67 จุด