ซีเอ็นเอ็น - เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางเยือนที่ทำการยูเอ็นซึ่งถูกโจมตีได้รับความเสียหายในฉนวนกาซา พร้อมเรียกร้องผู้นำอิสราเอลและปาเลสไตน์ หาทางบรรลุความสมานฉันท์ทางการเมือง หลังเกิดความรุนแรงอันน่าโศกเศร้าในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
"ความรุนแรงอันซ้ำซากที่รู้สึกได้โดยชาวปาเลสไตน์และอิสราเอล คือมลทินของความล้มเหลวทางการเมืองร่วมกัน" บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันอังคาร(20)
คำกล่าวที่มีขึ้นไม่ถึง 3 วันหลังอิสราเอลและกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาสตกลงหยุดยิงตามแต่ละฝ่าย ยุติการสู้รบอันดุเดือดต่อเนื่องยาวนาน 3 สัปดาห์ บัน ได้มีถ้อยแถลงอย่างแข็งกร้าวต่อทั้งสองฝ่าย
"ผมขอประณามการปะทุขึ้นของความขัดแย้งนี้ที่เลยเถิดไปถึงขั้นกองทัพอิสราเอลใช้กำลังทหารในกาซา ขณะเดียวกันผมมองว่าการยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลคือสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เราจำเป็นต้องปฏิรูปการเคารพขั้นพื้นฐานต่อพลเรือน" เขากล่าว
บัน มีแผนเดินทางต่อไปยังสเดรอต เมืองทางภาคเหนือของอิสราเอล ซึ่งพลเมืองถูกเป็นเป้าหมายโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาสที่ยิงออกมาจากฉนวนกาซานานหลายปี
ขณะที่เขาเดินทางไปทั่วภูมิภาคโดยมีเป้าหมายผลักดันทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงความรุนแรงครั้งใหม่ เขายังมีจุดประสงค์ผลักดันให้มีการสืบสวนกรณีกระสุนปืนใหญ่ของอิสราเอลถูกยิงเข้ามาตกในที่ทำการของสหประชาชาติด้วย
ก่อนหน้านี้ บัน ได้พบกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เอฮุด โอลเมิร์ต และแสดงความโล่งใจต่อการที่อิสราเอลประกาศหยุดยิง นอกจากนี้ บัน ยังได้เน้นถึงความสำคัญของการถอนทหารอิสราเอลออกจากฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์
บัน ยังบอกกับ โอลเมิร์ต ว่ายูเอ็นจะยังคงบทบาทสำคัญความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก้ประชาชนกาซา เช่นเดียวกับการฟื้นฟูเมืองในระยะยาว
มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 1,300 คน และอีก 5,400 คน ได้รับบาดเจ็บระหว่างการรุกรานกาซาของอิสราเอล ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมปีที่แล้ว ในจำนวนนั้นเป็นเด็กถึง 159 คน
ขณะเดียวกันอาคารต่างๆได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายมากถึง 22,000 หลัง ซึ่งรวมค่าเสียหายแล้วอยู่ที่ประมาณ 1,900 ล้านดอลลาร์ ส่วนทางฝ่ายอิสราเอลบอกว่ามีทหารของพวกเขาเสียชีวิต 10 นาย พลเรือน 3 คน