เอเจนซี - นักรบอิสลามิสต์ซึ่งภักดีต่อกลุ่มญะมาอะห์ อิสลามิยะห์ หรือ เจไอ ยังคงหนีไปยังทางใต้ของฟิลิปปินส์ รวมทั้งมีความพยายามย้ายไปฝึกตัวในภาคใต้ของไทยด้วย นักวิเคราะห์ในภูมิภาคเผยเมื่อวันอังคาร (20)
ซิดนีย์ โจนส์ จากกลุ่มอินเตอร์เนชั้นนอลไครซิสกรุ๊ป หรือ ไอซีจี เผยว่า กลุ่มชาวอินโดนีเซียเล็กๆ ซึ่งนำทีมโดยตัวการในการระเบิดบนเกาะบาหลี เมื่อปี 2002 ยังต้องการที่จะตั้งกลุ่มในทางใต้ของประเทศไทย
“เป็นปัจจัยผลักดันมากกว่าปัจจับดึงที่นำพวกเขาสู่เกาะมินดาเนา” โจนส์ บอกกับผู้สื่อข่าวต่างชาติในกรุงมะนิลา ทั้งยังเพิ่มเติมว่า ชาวอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งหนีไปยังทางใต้ของฟิลิปปินส์ กำลังหลบหนีเจ้าหน้าที่รัฐ
ผู้ที่มาใหม่ “กำลังพยายามจะได้รับการอบรมและการฝึกการต่อสู้” ซิดนีย์ ระบุ และสำทับด้วยว่า ความขัดแย้งในการแบ่งแยกดินแดนในทางใต้ของฟิฟิลิปปินส์อาจจะเป็นปัจจัยสำหรับการยังคงปรากฏตัวของกลุ่มเจไอในเกาะมินดาเนาด้วย
“ตราบใดก็ตามที่ยังมีสงครามเกิดขึ้นในทางใต้ ก็จะมีจำนวนนักรบญิฮัตอยู่ที่นั่นอยู่เล็กน้อย”
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในกรุงมะนิลาและกรุงจาการ์ตา เชื่อว่า อาจมีนักรบเจไอมากถึง 50 คน กบดานในพื้นที่สู้รบทางใต้ของฟิลิปปินส์ โดยส่วนใหญ่ในจำนวนนนี้เป็นชาวอินโดนีเซีย
โจนส์ กล่าวว่า กลุ่มเจไอ ซึ่งต้องการสร้างรัฐอิสลามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อ่อนแอลงเพราะถูกจับในอินโดนีเซีย และการแยกเครือข่ายในมาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม สมาชิกของกลุ่มจำนวนมากยังคงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ นักวิชาการต่อต้านการก่อการรายคนนี้ ยังเผยว่า ทางการมีข้อมูลว่า มีกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ราว 10 คน นำโดย อุมาร์ ปาเต็ก และ ดัลมาติน ผู้ต้องสงสัยระเบิดบาหลี พยายามเชื่อมโยงกัน และเป็นไปได้ว่ากำลังเคลื่อนปฏิบัติการไปยังทางชายแดนใต้ของไทย แม้จะถูกปฏิเสธจากนักรบท้องถิ่นในช่วงเริ่มต้น
“ชาวไทยมีคนที่ถูกฝึกในท้องถิ่น สามารถพูดภาษาท้องถิ่นของตัวเองได้ และแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถมากที่จะปรับปรุงการฝึกก่อเหตุระเบิดด้วยประสบการณ์”
“มีความปรารถนาจะเคลื่อนย้ายไปยังชายแดนใต้ของไทย แม้ยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม” โจนส์ ระบุ