xs
xsm
sm
md
lg

ชาวกาซารอคอยความช่วยเหลือ ขณะที่ยิวมุ่งขยายสงคราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ครอบครัวหนึ่งต้องหนีออกจากบ้านของตัวเองเพื่อให้ปลอดภัยจากการโจมตีของอิสราเอล
เอเอฟพี/เอเจนซี - ผู้คนในเขตฉนวนกาซาพากันแตกตื่นหาที่หลบภัยเท่าที่จะหาได้ตั้งแต่ก่อนรุ่งสางของวันจันทร์ (5) ในขณะที่กองทัพอิสราเอลโจมตีกองกำลังฮามาสต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ด้วยการยิงปืนใหญ่จากรถถังและยิงจรวดจากเครื่องบินรบจนเกิดแสงไฟแลบปลาบทั่วท้องฟ้าที่มืดมิด ส่วนฝ่ายฮามาสก็สุ่มยิงปืนกลหนักเข้าใส่เครื่องบินรบของอิสราเอล

กองทหารราบของอิสราเอลและกองกำลังของกลุ่มอิสลามิสต์ชาวปาเลสไตน์ เปิดการสู้รบกันในเขตเซโทอัน นอกเมืองกาซาซิตี ถนนหนทางในเมืองหลักของฉนวนกาซาแห่งนี้ ส่วนใหญ่ตกอยู่ในความมืดมิดจากการถูกตัดไฟ มีเพียงนักรบของกลุ่มฮามาสไม่กี่คนคอยเดินลาดตระเวน ส่วนประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่ได้แต่มองหาที่หลบระเบิด

"ชีวิตพวกเรามีแต่น้ำตา" อับเดลรอฮิม มาลากา ชาวเมืองที่อยู่ใกล้ๆ กันบอก "เราขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกเห็นใจเราและช่วยเราให้รอดพ้นจากสงครามของอิสราเอลด้วย พวกเด็กๆ ทำอะไรผิดหรือ บ้านของพวกแกถึงต้องถูกระเบิดถล่มใส่"

"พวกเราทุกคนกลัวมาก เพราะเราอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้" อาบู อาเบด อัล-ซาฟาดี ชาวเมืองอีกคนหนึ่งกล่าว "เราเห็นผู้หญิงที่เป็นเพื่อนบ้านของเราคนหนึ่งโบกธงสีขาว แต่พวกอิสราเอลก็ยังยิงใส่พวกเขา ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นยังไงกันมั่งแล้ว"

เยเฮีย เอนิส ฮุสเซน เสริมขึ้นว่า "เราตัวสั่นเหมือนพวกเด็กๆ มันทนไม่ไหวจริงๆ"

ชาวปาเลสไตน์ที่สามารถหาที่หลบภัยในเมืองอื่นได้ ต่างพาครอบครัวอพยพออกจากกาซาซิตีและเมืองทางเหนืออีกหลายเมืองซึ่งอยู่ใกล้บริเวณสู้รบ เมื่อตอนที่กองทัพอิสราเอลรุกคืบเข้ามาทุกขณะ

บ้านเรือนนับพันหลังถูกถล่มพังหรือเสียหายจนไม่อาจพักอาศัยได้อีกในยามค่ำคืนที่มีสภาพอากาศหนาวเหน็บ ส่วนช่วงกลางวันชาวปาเลสไตน์หลายสิบครอบครัวหลบเข้าไปอยู่ในรถยนต์หรือรถบรรทุก แต่อีกหลายครอบครัวก็หอบลูกจูงหลานเดินเท้าไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังเมืองที่อยู่ทางใต้ลงไปเพราะเป็นพื้นที่สงบมากกว่า

สำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินในเขตกาซารายงานว่า นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมเป็นต้นมา มีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 520 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระบุว่าผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็กมีจำนวนอย่างน้อย 90 คน

โมอาวิยา ฮัสซาเนน หัวหน้าสำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินกาซาระบุว่าตัวเลขน่าจะสูงกว่านี้อีกมากเพราะรถพยาบาลไม่สามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและนำศพผู้เสียชีวิตมาได้ทั้งหมด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตะวันตกของกาซาซิตีในช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ก็เข้าอยู่ในข่ายนี้ โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่ามีผู้หญิงสองคนกับเด็กอีกสองคนอยู่ในกลุ่มผู้บาดเจ็บจำนวน 5 คนจากเหตุการณ์โจมตีทางอากาศ

นอกจากนั้นในวันอาทิตย์ รถถังของอิสราเอลคันหนึ่งก็ได้ยิงปืนใหญ่ถูกรถยนต์ของครอบครัวชาวปาเลสไตน์ครอบครัวหนึ่งทำให้สมาชิกทั้งหมด 5 คนเสียชีวิตพร้อมกัน โดยคนหนึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี
ร้านค้าต่างๆ ปิดทำการ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีสินค้าเหลือสำหรับจะขายอีกต่อไป ผู้คนส่วนใหญ่จะออกจากบ้านก็เพื่อซื้อขนมปังเท่านั้น แต่หน่วยงานของสหประชาชาติระบุว่ามีร้านเบเกอรีเพียง 10 แห่งที่เปิดขายในเขตกาซาเพราะเกิดขาดแคลนแป้งและเชื้อเพลิง

โครงการอาหารโลกกล่าวว่าทางโครงการจะเน้นการจัดส่งขนมปังที่มีโปรตีนสูงและอาหารกระป๋องจำพวกเนื้อและปลาเข้าไปเพื่อให้รับประทานได้ทันที เพราะขณะนี้ตามบ้านเรือนต่างๆ แทบจะไม่มีก๊าซสำหรับหุงต้มอาหารอีกแล้ว

ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติระบุว่าโรงพยาบาลชิฟาซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักก็ต้องใช้ไฟสำรองในการดำเนินการเช่นกัน และโรงพยาบาลก็ไม่มีเชื้อเพลิงเพียงพอสำหรับทำความร้อนในหอคนไข้ช่วงกลางคืน และเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยตนเองก็มีเหลือเพียงพอสำหรับใช้ได้อีกเพียง 5 วันเท่านั้น "ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก็จวนจะเสียแล้วเหมือนกัน"

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอิสราเอลกล่าวว่ายังไม่เกิด "ภาวะวิกฤตด้านมนุษยธรรม" ในเขตกาซาดังที่หน่วยงานด้านความช่วยเหลือของสหประชาชาติกล่าว

(อนึ่งมีข่าวล่าสุดจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อิสราเอลแถลงวานนี้จะยอมให้รถบรรทุก 80 คันที่ขนสิ่งของเพื่อมนุษยธรรมเข้าไปยังกาซาแล้ว)
พ่อชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งร้องไหคร่ำครวญที่สูญเสียลูกๆ ของเขา
ชาวปาเลสไตน์ในเมืองกาซาประสบภาวะขาดน้ำ ไฟ และที่อยู่อาศัย
เด็กๆ หลบในโรงเรียน ซึ่งอยู่ในเขตยูเอ็น
ทีมค้นหายังคงหาผู้รอดชีวิต หรือแม้แต่ศพของเหยื่อการโจมตีในซากอาคารที่พังลงมา
กำลังโหลดความคิดเห็น