เอเจนซี - แม้การปฏิวัติประเทศจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก แต่คิวบายังต้องเผชิญกับ "การต่อสู้อย่างไม่หยุดหย่อน" จากภัยคุกคามของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีราอูล คาสโตร กล่าววานนี้ (1) ระหว่างพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการลุกฮือต่อสู้ โดยไร้เงาฟิเดล คาสโตร ผู้นำการปฏิวัติ ซึ่งป่วยเกินกว่าจะมาร่วมงาน
ประธานาธิบดีราอูลกล่าวอย่างภาคภูมิใจถึงการปฏิวัติปี 1959 ซึ่งนำพาประเทศแถบชาติแคริเบียนแห่งนี้ เข้าสู่การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ แต่เตือนด้วยว่า คิวบาต้องไม่ชะล่าใจในการพิทักษ์รักษาประเทศ
"ศัตรูของเราจะไม่มีวันยุติความก้าวร้าว, การทรยศหลอกลวงและการครอบงำ" ราอูลกว่าว "ถึงเวลาต้องมองอนาคต อีก 50 ข้างหน้า เรายังต้องต่อสู้อย่างไม่หยุดหย่อน... ผมไม่ได้พยายามทำให้ใครหวาดกลัว แต่มันคือความจริง"
การฉลองครบรอบ 50 ปีปฏิวัติคิวบา จัดขึ้นในช่วงที่ยุคสมัยของฟิเดล คาสโตร เริ่มตกต่ำและแขวนต่องแต่งอย่างไร้จุดหมายอยู่เหนืออนาคตของประเทศที่เขาก่อร่างสร้างขึ้นมา ซึ่งแม้จะได้รับคำชื่นชมด้านการบรรลุเป้าหมายทางสังคม แต่กลับโดนวิพากษก์วิจารณ์เรื่องสิทธิมนุษยชน
ประธานาธิบดีราอูล คาสโตร ซึ่งสืบทอดตำแหน่งต่อจากฟิเดล คาสโตร พี่ชายเมื่อเดือนกุมพาพันธ์ ยืนกล่าวสุนทรพจน์ใต้ระเบียงที่ฟิเดล คาสโตร เคยประกาศชัยชนะที่กรุงซันติอาโก ภายหลังอดีตเผด็จการฟูลเจนซิโอ บาติสตา ซึ่งมีสหรัฐฯ คอยหนุนหลัง หลบหนีออกจากคิวบาเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี 1959
ราอูลตะโกน ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังสนั่นว่า "คาสโตรจงเจริญ, การปฏิวัติจงเจริญ การปลดปล่อยคิวบาจงเจริญ"
ฟิเดล คาสโตร ไม่ปรากฎตัวต่อสาธารณชนอีกเลย นับตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดลำไส้เมื่อกลางปีที่แล้ว ในข้อความสั้น ๆ ซึ่งเผยแพร่วานนี้ (1) ในหนังสือพิมพ์แกรนมาของพรรคคอมมิวนิสต์ อดีตผู้นำกล่าวยินดีกับ "ประชาชนผู้กล้าหาญของเรา" ในวาระครบรอบ 50 ปีการปฏิวัติประเทศ