เอเอฟพี - รัฐบาลกรีซ สั่งปิดถนนหลายสายในกรุงเอเธนส์ เมื่อตอนเช้าวันอังคาร (9) หลังจากเกิดเหตุจลาจลรุนแรงติดต่อกันมา 3 คืนแล้ว และคาดว่า จะมีการชุมนุมประท้วงรุนแรงยิ่งขึ้นอีก เนื่องจากวานนี้เป็นวันทำพิธีฝังศพของ อเล็กซิส กริโกโรปูลอส เด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต และจุดชนวนการประท้วงใหญ่ระลอกนี้
นายกรัฐมนตรี กอสตาส คารามันลิส ได้ออกมาเรียกร้องความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อรับมือกับเหตุจลาจลครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศในรอบหลายทศวรรษ
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่า ในคืนวันจันทร์ (8) ซึ่งเกิดเหตุจลาจลเป็นคืนที่สามนั้น ได้จับกุมผู้ประท้วง 87 คน ที่ก่อเหตุปล้นชิงตามร้านค้าและบุกรุกทำลายสถานีตำรวจหลายแห่ง โดยตำรวจระบุว่า ผู้ประท้วงบางรายใช้ดาบและที่ยิงหนังสติ๊ก ซึ่งขโมยจากร้านขายอาวุธมาทำร้ายตำรวจด้วย
นอกจากนั้น ในวันจันทร์ (8) ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 10 คน และถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลเนื่องจากถูกแก๊สน้ำตา จนทำให้ระบบการหายใจมีปัญหา
สำนักงานเหตุฉุกเฉิน ระบุว่า เกิดไฟไหม้อาคารสำนักงาน 49 แห่ง ร้านค้า 47 แห่ง ธนาคาร 14 แห่ง รวมทั้งรถยนต์อีก 20 คัน และกระทรวงอีก 3 กระทรวง ส่วนสำนักข่าวเอเอ็นเอรายงานว่า เมืองซาโลนิกา ซึ่งอยู่ทางเหนือก็เกิดการจลาจลรุนแรง โดยมีการบุกเผาร้านค้าอย่างน้อย 70 แห่ง และธนาคาร 7 แห่ง นอกจากนั้น ยังมีรายงานเหตุจลาจลในเมืองอื่นด้วยคือ เมืองเพตราส ในเพโลพอนนีส เมืองลาริสซา เมืองคานี ในเกาะครีต และเมืองไอโอแอนนินาทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วย
ตอนช่วงเช้าวันอังคาร ท้องถนนหลายสายถูกปิดในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของเมืองหลวงเอเธนส์ ตามเก็บกวาดถังขยะที่ถูกเผา ตลอดจนเศษแก้ว และแผ่นอิฐปูทางเดินที่แตกเสียหาย ส่วนศาลาว่าการกรุงเอเธนส์ ก็ได้ขอร้องไม่ให้ประชาชนเข้ามาในพื้นที่ย่านใจกลางเมืองหลวง หากไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ
สำหรับพิธีศพของกริโกโรปูลอส จะจัดขึ้นที่ ปาลิโอ ฟาลิโร อันเป็นเขตชานเมืองทางใต้ของกรุงเอเธนส์ ในเวลา 20.00 น.เวลาเมืองไทย
ขณะที่สถานศึกษาต่างๆ ได้มีคำสั่งปิด โดยที่นักเรียนนักศึกษามีแผนจัดการชุมนุมประท้วง และสหภาพแรงงานก็จะผละงานประท้วงต่อไปอีกตามแผนการเดิมที่วางไว้
เวลานี้แรงกดดันต่อรัฐบาลหัวอนุรักษนิยมของคารามานลิส กำลังหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเขาจะให้คำมั่นในวันจันทร์ว่าจะยุติปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้
คารามานลิสได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินในคืนวันจันทร์ และเข้าพบกับประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอัส รวมทั้งผู้นำพรรคการเมืองพันธมิตรและพรรคฝ่ายค้านในวันอังคารด้วย
“ในฐานะที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ เราจะไม่ยอมผ่อนปรนกับสิ่งที่เกิดขึ้น” คารามานลิส กล่าวหลังเข้าพบประธานาธิบดีกรีซ และเสริมว่า “ไม่มีใครมีสิทธิใช้เหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นข้อแก้ตัวสำหรับการก่อเหตุรุนแรง และในช่วงเวลาวิกฤตนี้ โลกการเมืองจะต้องพร้อมใจกันประณามและแยกแยะว่าใครคือผู้กระทำผิดในเหตุรุนแรงครั้งนี้ด้วย”
ทว่า รัฐบาลกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสื่อมวลชน บทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์รายวัน อีเลฟเธโรไทเปีย ฉบับวันอังคาร ระบุว่า “กรีซต้องเข้าสู่ภาวะความโกลาหลไปทั้งประเทศ ก็เพราะรัฐบาลเป็นต้นเหตุ” ส่วนหนังสือพิมพ์ตาเนีย ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ก็ระบุว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้อยู่ในบริเวณที่มีการก่อเหตุร้ายแรงทุกจุด” ซึ่งเสริมกับความเห็นของพวกนักวิจารณ์ที่เห็นว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นความสามารถในการจัดตั้งองค์กรของพวกหัวรุนแรงในเขตเมือง โดยมีสื่ออินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือช่วยหนุนเสริม ในขณะที่รัฐบาลประสบความล้มเหลวที่จะจัดการกับกลุ่มก่อกวนนิยมลัทธิอนาธิปไตยเหล่านี้ได้