เอเจนซี - โจรสลัดไล่ล่าและยิงเข้าใส่เรือสำราญสหรัฐฯซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือมากกว่า 1,000 คน ขณะที่เรือลำนี้กำลังแล่นไปตามเส้นทางเดินเรือที่ตรวจตราโดยเรือรบนานาชาติ อย่างไรก็ตามคนร้ายล้มเหลวในความพยายามปล้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทางทะเลเปิดเผยเมื่อวันอังคาร(2)
เรือเจ้าสำราญบรรทุกนักท่องเที่ยวจากหลายชาติทั้งหมด 656 คนพร้อมกับลูกเรืออีก 399 ราย กำลังล่องผ่านอ่าวเอเดนซึ่งเต็มไปด้วยโจรสลัดในวันอาทิตย์(30พ.ย.) และได้เผชิญหน้ากับคนร้าย 6 คนที่ใช้เรือเร็ว 2 ลำเป็นยานพาหนะ โนเอล ชุง หัวหน้าสำนักงานเดินเรือทะเลนานาชาติของมาเลเซียเผย
โจรสลัดยิงเข้าใส่เรือเจ้าสำราญที่เต็มไปด้วยผู้โดยสาร แต่เรือใหญ่มีความเร็วมากกว่าเรือของคนร้าย "เคราะห์ดีมาก ที่เรือสำราญหนีออกมาได้" ชุง กล่าว พร้อมเตือนเรือทุกลำที่อยู่ในพื้นที่อยู่ในความไม่ประมาท
ฐานทัพเรือที่5 ของสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศบาห์เรน ระบุว่าทางกองทัพได้ทราบถึงความพยายามโจมตีเรือสำราญเช่นกัน แต่ยังไม่มีรายละเอียดใดๆเพิ่มเติม
บริษัทเจ้าของเรือคือโอเชียเนียครุยส์อิงค์ ระบุว่าเรือลำดังกล่าวมีชื่อว่าเอ็ม/เอส นัวติกาและในแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ทางบริษัทกล่าวว่าโจรสลัดได้เปิดฉากยิงเข้าใส่เรือด้วยปืนไรเฟิล 8 นัด แต่กัปตันเรือได้เร่งความเร็วและหนีออกมาได้ โดยที่ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดปลอดภัย ส่วนเรือสำราญไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
เอ็ม/เอส นัวติกา อยู่ระหว่างการล่องเรือ 32 วันจากกรุงโรมมายังสิงโคโปร์ โดยจะมีการหยุดพักใน อิตาลี อียิปต์ โอมาน ดูไบ อินเดีย มาเลเซีย และ ไทย เว็บไซต์ระบุพร้อมเผยว่าขณะที่ถูกโจมตีเรือสำราญกำลังเดินทางจากอียิปต์ไปยังโอมาน
เรือเจ้าสำราญลำนี้เดินทางมาถึงเมืองท่าซาลาลาห์ ทางตอนใต้ของโอมานเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์(1ธ.ค.) และผู้โดยสารได้เดินทางเยี่ยมชมเมืองก่อนเดินทางต่อไปยังเมืองหลวงมัสกัตในตอนเย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวโอมานรายหนึ่งเปิดเผย
เเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการโจมตีเรือสำราญ ในปี 2005 โจรสลัดได้เปิดฉากยิงเรือซีเบิร์นสปิริต ที่แล่นทางจากชายฝั่งโซมาเลีย 160 กิโลเมตร แต่เรือซีเบิร์นสปิริตหนีรอดออกมาได้ หลังใช้เป้าลวงตอร์ปิโดพิสัยไกลส่งคลื่นเสียงก่อกวนโจรสลัด
เรือรบนานาชาติได้ลาดตระเวนตรวจตราตามน่านน้ำดังกล่าวและกำหนดเส้นทางเดินเรือที่ปลอดภัยในพื้นที่ภายใต้การริเริ่มและนำโดยสหรัฐฯ แต่การโจมตีของโจรสลัดไม่ได้เบาลง
ในปีนี้มีเรือถูกโจรสลัดโจมตีบริเวณนอกชายฝั่งโซมาเลียไปแล้วกว่า 100 ครั้ง และมีเรือกว่า 40 ลำที่ถูกปล้น ขณะที่ยังเหลือเรืออีก 14 ลำกับลูกเรืออีกมากกว่า 250 คนที่อยู่ในการควบคุมของโจรสลัด