ชี้ ความนิยมในตัว “โอบามา” บั่นทอนความน่าเชื่อถือของอัลกออิดะห์

เอเอฟพี – ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านก่อการร้าย ชี้ ข้อความแรกจากกลุ่มอัลกออิดะห์ที่ส่งถึง บารัค โอบามา 2 สัปดาห์ หลังจากชัยชนะในการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นถึงการตอบโต้ด้วยความตื่นกลัวต่อความนิยมในตัวว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ

เอเอฟพี - ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านก่อการร้าย ชี้ ข้อความแรกจากกลุ่มอัลกออิดะห์ที่ส่งถึงบารัค โอบามา 2 สัปดาห์ หลังจากชัยชนะในการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นถึงการตอบโต้ด้วยความตื่นกลัวต่อความนิยมในตัวว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ

อัยมาน อัลซอวาฮีรี แกนนำหมายเลขสองของกลุ่มอัลกออิดะห์ หมิ่นประมาทโอบามา และอเมริกันชนผิวดำคนอื่นๆ ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านข้อความทางอินเทอร์เน็ตในวันพุธ (19) ที่ผ่านมา พร้อมเตือนว่า ที่ประธานาธิบดีว่า สหรัฐฯ อาจประสบความล้มเหลวเช่นเดียวกับสหภาพโซเวียต หากยังมีการส่งทหารเพิ่มเข้าไปในอัฟกานิสถาน

แม้ว่าจะใช้คำพูดที่ดุดัน แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าคำพูดของซอวาฮีรี สะท้อนความกังวลของกลุ่มอัลกออิดะห์ เกี่ยวกับผู้นำคนใหม่ ซึ่งสามารถฟื้นความนิยมจากประชาชนได้อย่างแพร่หลาย และขัดขวางความสามารถของกลุ่มติดอาวุธนี้ในการดึงดูดเงิน และฝึกอบรมสมาชิกเพื่อก่อการร้าย

อาร์ พี เอ็ดดี้ อดีตผู้อำนวยการด้านการต่อต้านก่อการร้าย ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ข้อความล่าสุดจากซอวาฮีรีเป็นหลักฐานเพิ่มเติม ที่ชี้ว่า อัลกออิดะห์กลัวการฟื้นคืนอิทธิพลของอเมริกา หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งทั่วโลกต่างชื่นชมอเมริกา จากชัยชนะของโอบามา

ทั้งนี้ โอบามา ประกาศกร้าวว่า อัฟกานิสถาน และ ปากีสถาน จะเป็นส่วนสำคัญในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย โดยเขายืนยันจะส่งทหารเข้าไปในอัฟกานิสถาน เพื่อปราบกลุ่มตอลิบาน รวมถึงเขตชนเผ่าของปากีสถาน ซึ่งหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่าบินลาดิน และผู้ช่วยของเขาหลบซ่อนอยู่

นอกจากนี้ โธมัส แซนเดอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญการต่อต้านก่อการร้ายจากศูนย์ยุทธศาสตร์ และสากลศึกษา ระบุว่า โอบามา เอาใจใส่ และน่าดึงดูดกว่าบุชมาก ด้านหนึ่งทำให้อเมริกาดูดีขึ้น และอีกด้านก็ทำให้อัลกออิดะห์มีความสำคัญน้อยลงด้วย

ขณะที่ สตีเวน ไซมอน จากสภาความสัมพันธ์ต่างประเทศ ชี้ว่า ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์อาจจะไม่รู้จริงว่าต้องคิดอะไรในตอนนี้ เนื่องจากในมุมหนึ่ง พวกเขาเชื่อว่าประธานาธิบดีของอเมริกาคงทำในสิ่งที่ชาวอเมริกันเคยทำ อย่างการแผลงฤทธิ์ และดูถูกชาวมุสลิมเท่านั้น แต่กรณีนี้ ประธานาธิบดีที่มีชื่อภาษาอาหรับกลับได้รับความนิยมไปทั่วทั้งในและนอกประเทศ