ซีเอ็นเอ็น/เอเจนซี - ราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อวันจันทร์ (17) ปิดตลาดต่ำกว่า 55 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดในรอบ 21 เดือน ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ดำดิ่งจากข่าวญี่ปุ่นถลำลงสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตในตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับเดียวกันนี้คือเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2007 ที่ 54.01 ดอลลาร์
ขณะที่ในตลาดลอนดอน น้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ร่วงลง 1.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนปีนี้ ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นได้หดตัวลง 0.1% สืบเนื่องจากเป็นไตรมาสที่แดนอาทิตย์อุทัยเพิ่งรับผลกระทบของความปั่นป่วนรุนแรงในตลาดการเงินโลกที่เริ่มต้นขึ้นในตอนกลางเดือนกันยายน อันทำเอากิจการธนาคารในวอลล์สตรีทล่มจมเป็นแถวๆ อีกทั้งจุดชนวนให้ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวดำดิ่งเหว และเงินเยนแข็งค่า ซึ่งน่าจะทำให้พวกผู้ส่งออกยิ่งบาดเจ็บหนักขึ้นไปอีก
ทางด้านเขตยูโรโซนก็ประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตามคำจำกัดความที่นิยมใช้กันทั่วไปที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็คือการที่เศรษฐกิจอยู่ในสภาพติดลบรวม 2 ไตรมาสต่อเนื่องกัน ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นก็คาดว่าจะตามติดมาในไม่ช้า ภายหลังจากไตรมาสสามปีนี้อยู่ในอาการติดลบแล้ว 1 ไตรมาส
ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากมีสัญญาณเพิ่มเติมว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลกกำลังแพร่ขยาย เจมส์ คอร์เดียร์ จาก OptionSellers.com.กล่าว “มันเป็นเรื่องยากที่จะมองว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม่ลึกซึ้งและจะมีขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ”
