เอเอฟพี – ราคาน้ำมันในตลาดเอเชียวันนี้ (14) ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แต่นักวิเคราะห์ชี้ แนวโน้มในระยะยาวยังคงต่ำลง แม้จะมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปกอาจจะประกาศลดการผลิตอีกในปลายเดือนนี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตในตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ มาอยู่ที่ระดับ 58.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อปิดตลาด หลังจากไต่ขึ้นมา 2.08 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 58.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพฤหัสบดี (13) ที่ผ่านมา
ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์นอร์ธซี งวดส่งมอบเดือนมกราคม ก็สูงขึ้น 27 เซนต์ มาอยู่ที่ 56.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน สัญญาซื้อขายงวดเดือนธันวาคมนั้นสิ้นสุดเมื่อปิดตลาดในลอนดอนวานนี้ ลงมาอีก 38 เซนต์ เหลือเพียง 51.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้าน วิกเตอร์ ชัม ที่ปรึกษาด้านพลังงานระหว่างประเทศในสิงคโปร์ ชี้ว่า ราคาน้ำมันซื้อขายกันตามกลไกตลาด ซึ่งมีราคมีสูงขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ (14) หลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอันทรงอิทธิพลเริ่มกระเตื้องขึ้นมา
นับตั้งแต่ราคาน้ำมันทะยานขึ้นสูงสุด มากกว่า 147 ดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ราคากลับร่วงลงกว่า 60% ด้วยภาวะการชะลอตัว ทั้งด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และความต้องการพลังงาน
นอกจากนี้ คาดว่า กลุ่มโอเปกจะจัดการประชุมฉุกเฉินในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เพื่อหารือแก้ปัญหาราคาน้ำมันดิบตกต่ำ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน ชากิบ เคลิล ประธานโอเปกได้ระบุไว้ว่า หากราคาน้ำมันยังลดลงต่อเนื่อง ก็อาจต้องลดการผลิตลงอีก เพื่อคงราคาให้อยู่ในระดับ 70-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล