xs
xsm
sm
md
lg

มะกันยิงขีปนาวุธถล่มปากีฯ กวาดล้างตอลิบานชาวบ้านตาย 11

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ความเสียหายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของวาซิรีสถานจากการถล่มโดยขีปนาวุธของสหรัฐฯ
เอเจนซี/เอเอฟพี – เครื่องบินบังคับวิทยุทางไกล ซึ่งต้องสงสัยเป็นของสหรัฐฯ ได้ยิงขีปนาวุธถล่มหมู่บ้านแห่งหนึ่งในปากีสถานเช้านี้ (23) ทำให้มีชาวเผ่าเสียชีวิต 11 คน เชื่อเป็นการโจมตีครั้งล่าสุดเพื่อถล่มที่กบดานของผู้บัญชาการกลุ่มตอลิบาน

การโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตชนเผ่าวาซิรีสถาน ทางตอนเหนือของประเทศ ที่ติดกับชายแดนอัฟกานิสถาน ซึ่งเชื่อว่าญาลาลุดดิน ฮักกานี สหายคนสนิทของอุซามะ บินลาดิน ได้ตั้งโรงเรียนสอนศาสนา และอาศัยร่วมกับครอบครัวที่นี่

ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าจากมิรันชาห์ เมืองสำคัญในวาซิรีสถานตอนเหนือว่า มีกลุ่มติดอาวุธจำนวนมากรีบขึ้นยานพาหนะแล้วตรงไปยังบริเวณดังกล่าวทันที

ซอร์ดาด คาห์น ชาวบ้านคนหนึ่ง เผยในเวลาต่อมาว่า มีผู้เสียชีวิต 11 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง จากการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งนี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นพลเรือนท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้ ก็มีผู้เสียชีวิต 23 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นญาติของฮักกานี จากการโจมตีในหมู่บ้านเดียวกันนี้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ขณะที่กองกำลังของสหรัฐฯ ซึ่งไม่พอใจกับการโจมตีข้ามชายแดนจากฝั่งปากีสถาน ก็ได้ยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกถล่ม รวมถึงส่งหน่วยคอมมานโดบุกเข้าไปในพื้นที่ชนเผ่าของปากีสถานหลายแห่งตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ทำให้มีกลุ่มติดอาวุธจำนวนมากเสียชีวิต แต่ไม่มีรายงานว่าแกนนำ หรือผู้บัญชาการอาวุโสของกลุ่มอัลกออิดะห์ และตอลิบานเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันชัดเจนว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของกองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน หรือหน่วยข่าวกรองกลางกันแน่ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ใช้เครื่องบินสอดแนม ติดขีปนาวุธดังกล่าวในการปฏิบัติการ

ทั้งนี้ ฮักกานี เป็นทหารผ่านศึกสงครามอัฟกัน ที่มีสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน ในการต่อสู้การบุกรุกของโซเวียดในทศวรรษที่ 1970 และ 1980 โดยครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่ในวาซิรีสถานนับแต่นั้น แต่ลูกชายคนหนึ่งของเขาเผยว่า ผู้เป็นพ่อได้หลบไปอยู่ในอัฟกานิสถาน ตั้งแต่หมู่บ้านถูกโจมตีเมื่อเดือนกันยายนแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น แหล่งข่าวตอลิบาน ระบุว่า ฮักกานีมีสุขภาพไม่แข็งแรงนัก ซิราจัดดิน ลูกชายของเขาจึงเป็นผู้นำกลุ่มของฮักกานีแทน ซึ่งความสัมพันธ์ของฮักกานีกับบินลาดินนั้นย้อนกลับไปตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1980 แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น