เอเอฟพี - นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล โจเซฟ สติกลิตซ์ กล่าวเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (2)ว่า แผนช่วยชีวิตภาคการเงิน 700,000 ล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ ยังไม่สามารถฟื้นฟูทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมีเสถียรภาพได้
"มันก็เหมือนกับการให้เลือดจำนวนมหาศาลแก่คนที่กำลังมีอาการตกเลือดภายในร่างกาย" นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันฝีปากกล้าผู้นี้กล่าวเปรียบเทียบ ระหว่างการสัมมนาของมหาวิทยาลัยเวียนนา ประเทศออสเตรีย
สติกลิตซ์ ชี้ว่า แผนการกอบกู้ภาคการเงินเป็นความพยายามที่จะยุติวิธีเดิมๆ ที่กระทำกันจนเกินเลยไปแล้ว ทว่ามันไม่ใช่การเริ่มต้นสร้างความสมดุลใหม่ในทางการเงิน เขาอธิบายว่า กระทั่งสหรัฐฯ รีบออกแผนการนี้มาใช้ ก็ยังจะต้องเผชิญกับภาวะสินเชื่อหดตัวอยู่นั่นเอง ซึ่งย่อมสร้างปัญหามากมายใหญ่โต อาทิ จะต้องมีการตัดลดค่าใช้จ่ายกันในวงการต่างๆ อย่างขนานใหญ่
"จีดีพีกำลังจะลดต่ำลงมา ดังนั้นคุณก็จะพบว่าการบริโภคหดตัวลงมาด้วย" เขาบอกพร้อมกับชี้ว่า การเติบโตขยายตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐฯนั้น ประมาณ 75% มาจากพลังของการบริโภค
สติกลิตซ์ยังวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีคลัง เฮนรี พอลสัน ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับมาตรการกำกับตรวจสอบแบงก์และสถาบันการเงินให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเขากล่าวว่า "ถ้าหากมีประเทศกำลังพัฒนาแห่งใดแห่งหนึ่งกำลังประพฤติแบบเดียวกับพอลสันแล้ว ในสถาบันการเงินทั้งหลายและในธนาคารโลก พวกเขาก็จะต้องพูดกันว่า นี่มันเป็นการเปิดประตูให้แก่การทุจริตคอร์รัปชั่น"
"มันก็เหมือนกับการให้เลือดจำนวนมหาศาลแก่คนที่กำลังมีอาการตกเลือดภายในร่างกาย" นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันฝีปากกล้าผู้นี้กล่าวเปรียบเทียบ ระหว่างการสัมมนาของมหาวิทยาลัยเวียนนา ประเทศออสเตรีย
สติกลิตซ์ ชี้ว่า แผนการกอบกู้ภาคการเงินเป็นความพยายามที่จะยุติวิธีเดิมๆ ที่กระทำกันจนเกินเลยไปแล้ว ทว่ามันไม่ใช่การเริ่มต้นสร้างความสมดุลใหม่ในทางการเงิน เขาอธิบายว่า กระทั่งสหรัฐฯ รีบออกแผนการนี้มาใช้ ก็ยังจะต้องเผชิญกับภาวะสินเชื่อหดตัวอยู่นั่นเอง ซึ่งย่อมสร้างปัญหามากมายใหญ่โต อาทิ จะต้องมีการตัดลดค่าใช้จ่ายกันในวงการต่างๆ อย่างขนานใหญ่
"จีดีพีกำลังจะลดต่ำลงมา ดังนั้นคุณก็จะพบว่าการบริโภคหดตัวลงมาด้วย" เขาบอกพร้อมกับชี้ว่า การเติบโตขยายตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐฯนั้น ประมาณ 75% มาจากพลังของการบริโภค
สติกลิตซ์ยังวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีคลัง เฮนรี พอลสัน ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับมาตรการกำกับตรวจสอบแบงก์และสถาบันการเงินให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเขากล่าวว่า "ถ้าหากมีประเทศกำลังพัฒนาแห่งใดแห่งหนึ่งกำลังประพฤติแบบเดียวกับพอลสันแล้ว ในสถาบันการเงินทั้งหลายและในธนาคารโลก พวกเขาก็จะต้องพูดกันว่า นี่มันเป็นการเปิดประตูให้แก่การทุจริตคอร์รัปชั่น"
