เอเอฟพี - กลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ กล่าววันนี้ (18) ว่า หากนางซิปี ลิฟนี ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิสราเอล นั่นอาจหมายถึงดำเนินรอยตามนโยบาย “ก้าวร้าว” ต่อชาวปาเลสไตน์
“การขึ้นสู่อำนาจของลิฟนี อาจเป็นนัยนโยบายเดิมของการปราบปรามและก้าวร้าวต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์ ที่เคยดำเนินการโดยบรรดาผู้นำที่สนับสนุนอพยพชาวยิวไปอยู่ในปาเลสไตน์ก่อนหน้านี้” ฟอว์ซี บาร์ฮัม โฆษกของกลุ่มฮามาสกล่าวในแถลงการณ์ “เรายังคงจะต่อต้านพวกเขา เช่นเดียวกับนโยบายปกป้องตนเอง”
ลิฟนี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคาดิมา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเมื่อวันพุธ (10) สำหรับการโหวตเพื่อหาผู้ทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เอมุด โอลเมิร์ต ที่ลาออกไปสู้ข้อกล่าวหาคอร์รัปชัน
ฮามาส ซึ่งถูกอิสราเอลมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย เข้าปกครองฉนวนกาซาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว หลังจากประธานาธิบดีปาเลสไตน์มาห์มูด อับบาส สั่งปลดรัฐบาลปาเลสไตน์ทั้งคณะ จนนำไปสู่เหตุนองเลือดระหว่างฮามาสกับกลุ่มฟาตาห์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ภักดีต่ออับบาส
ลิฟนีได้คะแนนเสียง 43 เปอร์เซ็นต์ เอาชนะคู่แข่งคนสำคัญของเธอ ชาอุล โมฟาซ รัฐมนตรีคมนาคม เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ หรือแค่ 431 คะแนน
ชัยชนะของลิฟนี ส่งผลให้เธอจะก้าวมาเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจมากที่สุดในอิสราเอลและเจริญตามรอยเท้าของโกลดา เมียร์ ผู้หญิงคนแรกที่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของประเทศแห่งนี้ระหว่างปี 1969-1974
โอลเมิร์ต ซึ่งแถลงเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมว่า เขาจะลงจากตำแหน่งเมื่อพรรคเคดิมาเลือกผู้นำคนใหม่ กำลังเผชิญกับการสอบสวนคดีคอร์รัปชันอันครึกโครมที่อาจนำไปสู่การตั้งข้อหาอาญาต่อตัวเขา
เขาดูเหมือนจะรอจนกว่าช่วงหลังงานฉลองเทศกาลปีใหม่ของชาวยิวในช่วงปลายเดือนกันยายนและอาจลาออกอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนหน้า สื่อมวลชนอิสราเอลรายงาน