เอเอฟพี - "เอไอจี" ยักษ์ใหญ่ประกันภัยสัญชาติอเมริกันที่หยั่งรากปักฐานในเอเชียมายาวนาน กำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ผู้ซื้อกรมธรรม์นับล้านๆ ราย รวมทั้งพนักงานหลายหมื่นคนในภูมิภาคนี้ เกิดความมั่นใจว่าบริษัทจะรอดจากวิกฤตครั้งนี้และเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่มีรายงานว่าลูกค้านับร้อยนับพันในหลายประเทศไปเข้าคิวขอเวนคืนกรมธรรม์
อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ซึ่งเพิ่งได้รับความช่วยเหลือต่อชีวิตด้วยเม็ดเงิน 85,000 ล้านดอลลาร์จากทางการสหรัฐฯ กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้ความเชื่อถือของลูกค้าและพนักงานในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของตนเอง
เอไอจีมีกิจการอยู่ใน 130 ประเทศและมีพนักงานถึง 116,000 คน โดยมีรายงานกว่าเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในเอเชีย กิจการในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจการด้านการประกันชีวิต ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,จีน และออสเตรเลียของเอไอจีนั้น บริหารงานโดยบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล แอสชัวรันส์ (เอไอเอ) ซึ่งเอไอจีเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
สถานการณ์ของเอไอเอกำลังปั่นป่วนยิ่ง แม้ว่าจะมีข่าวยืนยันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้าอุ้มบริษัทแม่ แต่ลูกค้านับพันคนก็ยังหลั่งไหลไปยังสำนักงานต่างๆ ของเอไอเอในเอเชีย โดยบางรายต้องการ "เวนคืนกรมธรรม์" นั่นคือขอยกเลิกสัญญาประกันชีวิตที่ทำไว้
ในสิงคโปร์ ผู้คนหลายร้อยเข้าแถวอยู่ด้านนอกสำนักงานใหญ่ในท้องถิ่นของบริษัท ขณะที่มีคนกว่า 1,200 คนเฝ้ารอคอยอยู่ที่สำนักงานต่างๆ ในนครไทเป ของหนานซาน ไลฟ์ อินชัวรันซ์ อันเป็นบริษัทลูกของเอไอเอในไต้หวัน
สำนักงานของเอไอเอที่ฮ่องกงก็มีผู้ถือกรมธรรม์ที่เป็นห่วงถึงเงินออมของตนก็เดินทางไปสอบถามและขอถอนเงินคืนมาด้วยเช่นกัน "ฉันเป็นกังวลมาก" ชู นักท่องเที่ยวจากจีนรายหนึ่งที่ลากกระเป๋าเดินทางของเธอไปสอบถามข้อมูลต่างๆ จากสาขาของเอไอเอในฮ่องกงก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน"
"เพราะแม้ว่าทางการสหรัฐฯ จะเข้าช่วยเหลือ แต่เอไอเอก็ยังต้องขายสินทรัพย์เพื่อจ่ายเงินที่กู้มา"
วิทยุในฮ่องกงแห่งหนึ่งอ้างแหล่งข่าวหลายรายในรัฐบาลฮ่องกงว่า มีลูกค้ามาขอเวนคืนกรมธรรม์จากเอไอเอที่นี่ไปราว 1,400 กรมธรรม์ในวันอังคาร (16) และอีก 170 รายเมื่อวานนี้ (17) ขณะที่เจ้าหน้าที่ฮ่องกงเองไม่ยืนยันเรื่องนี้ แต่บอกว่าสถานการณ์ดูจะกำลังดีขึ้นแล้ว หลังเฟดประกาศอุ้มเอไอจี
เครือเอไอจีเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นจากเอเชีย โดยชาวอเมริกันเชื้อสายดัตช์เข้าไปก่อตั้งบริษัทขึ้นที่เซี่ยงไฮ้เมื่อ 89 ปีก่อน จากนั้นเอไอจีก็เติบใหญ่ขยายตัวจนครองฐานะเป็นบริษัทประกันภัยใหญ่ที่สุดของโลกมานานปี รวมทั้งบุกเข้าไปในธุรกิจต่างๆ อาทิ ธุรกิจเช่าซื้อเครื่องบิน ที่ทำกำไรงดงามยิ่ง
แต่ตอนนี้หน่วยงานเอเชียของเอไอจี กำลังพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเอาตัวเองออกห่างจากปัญหาของบริษัทแม่ให้ไกลที่สุด พร้อมกันนั้นก็บอกลูกค้าว่าบริษัทในเอเชียมีเม็ดเงินมหาศาลไม่ได้ขาดแคลนอะไร
ที่ไต้หวัน เอไอจีซึ่งถือหุ้น 95% ของหนานซานไลฟ์ อินชัวรันส์ โฆษกของบริษัท แจกแจงว่า "ธุรกิจยังคงดำเนินไปตามปกติ" ที่สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซียและประเทศไทย บริษัทลูกในท้องถิ่นก็ออกมาบอกข้อความเดียวกัน
ส่วนที่เซี่ยงไฮ้ เอไอเอก็ออกมาบอกว่า "ธุรกิจดำเนินไปตามปกติ และเอไอเอจะดำเนินการตามภาระผูกพันที่มีกับลูกค้าทุกประการ"
ขณะเดียวกัน สำนักงานนโยบายการเงินแห่งสิงคโปร์ ซึ่งถือว่าเป็นธนาคารกลางของสิงคโปร์ ออกมายืนยันว่า เอไอเอมีทรัพย์สินมากพอที่จะจ่ายคืนให้แก่ผู้เอาประกันได้ และก็ยังได้ให้คำแนะนำอีกว่า ผู้ถือกรมธรรม์ของเอไอเอไม่ควรที่จะรีบร้อนเวนคืนกรมธรรม์ที่ทำไว้กับบริษัท
แกรี่ กวาน โบรกเกอร์ชาวฮ่องกงที่ทำงานกับคอนวอย กลุ่มที่ให้บริการด้านการเงินต่างๆ กล่าวว่าเขาพยายามแนะนำให้ลูกค้ายังคงถือกรมธรรม์ของเอไอเอต่อไป
"ผมวางใจในหน่วยงานกำกับตรวจสอบของฮ่องกงว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนทุกราย" เขากล่าว
เตเต๊อะหมิง นักยุทธศาสตร์การตลาดที่แซ็กโซ แคปิตอล มาร์เกตส์ กล่าวว่า กระทั่งเอไอจีจะถูกฝังดินจริงๆ แต่ธุรกิจในเอเชียแต่ละประเทศก็ยังจะสามารถดำเนินต่อไปได้ และการเวนคืนกรมธรรม์กับเอไอเอ เป็นการตระหนกตกใจเกินไปกว่าเหตุ