เอเอฟพี - อัตราเงินเฟ้อของซิมบับเวทะลุขึ้นไปอยู่ที่ 11.2 ล้านเปอร์เซ็นต์ต่อปีแล้ว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สื่อของรัฐบาลซิมบับเวรายงานโดยอ้างสำนักงานสถิติแห่งชาติว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศพุ่งขึ้น 9,035,045.5% จากอัตราของเดือนพฤษภาคมซึ่งอยู่ที่ 2,233,713.4 %
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์อิสระอย่าง จอห์น โรเบิร์ตสัน คาดว่า ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านั้นมาก เพราะสำนักงานสถิติพยายามกดให้ตัวเลขต่ำ ตามที่เขาคำนวณคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อของซิมบับเวในเดือนมิถุนายนนั้นน่าจะอยู่ที่ 40 ล้าน% และตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมน่าจะสูงถึง 300 ล้าน% ส่วนเดือนสิงหาคม เงินเฟ้อจะขึ้นไปถึง 600 ล้าน%
ซิมบับเวนั้นเคยเป็นแบบอย่างการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้มาก่อน และเป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำหรับภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้มาก่อนด้วย แต่ตอนนี้กำลังประสบกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างที่ประเทศใดไม่เคยประสบมาเพราะนโยบายการปราบปรามเจ้าของที่ดินผิวขาวของรัฐบาลประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ และตอนนี้ราว 80% ของประชาชนในประเทศไร้งานทำและมีชีวิตอยู่ภายใต้เส้นความยากจน พวกเขามักจะต้องเดินไปทำงานระยะไกลมากเพื่อประหยัดเงินค่ารถเอาไว้
เมื่อต้นเดือนนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางของซิมบับเวออกมาเรียกร้องให้ทางการตรึงเงินเดือนและราคาสินค้าในช่วง 6 เดือนให้ได้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งกำลังทำให้เศรษฐกิจทรุดลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศที่มองไม่เห็นทางแก้ไข ยังถูกซ้ำเติมจากสถานการณ์ทางการเมืองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมิถุนายน และแม้ว่าจะมีความพยายามเจรจากันระหว่างรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านที่นำโดยมอร์แกน ซวางกิไรมาหลายครั้ง รวมทั้งอัฟริกาใต้ก็เข้าไกล่เกลี่ยแต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น การเจรจานี้เป็นความหวังสุดท้ายของนักลงทุนและประชาชนชาวซิมบับเวที่ต้องการเห็นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาโดยเร็ว เพื่อฟื้นฟูประเทศที่เห็นเศรษฐกิจดิ่งเหวตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์อิสระอย่าง จอห์น โรเบิร์ตสัน คาดว่า ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านั้นมาก เพราะสำนักงานสถิติพยายามกดให้ตัวเลขต่ำ ตามที่เขาคำนวณคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อของซิมบับเวในเดือนมิถุนายนนั้นน่าจะอยู่ที่ 40 ล้าน% และตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมน่าจะสูงถึง 300 ล้าน% ส่วนเดือนสิงหาคม เงินเฟ้อจะขึ้นไปถึง 600 ล้าน%
ซิมบับเวนั้นเคยเป็นแบบอย่างการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้มาก่อน และเป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำหรับภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้มาก่อนด้วย แต่ตอนนี้กำลังประสบกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างที่ประเทศใดไม่เคยประสบมาเพราะนโยบายการปราบปรามเจ้าของที่ดินผิวขาวของรัฐบาลประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ และตอนนี้ราว 80% ของประชาชนในประเทศไร้งานทำและมีชีวิตอยู่ภายใต้เส้นความยากจน พวกเขามักจะต้องเดินไปทำงานระยะไกลมากเพื่อประหยัดเงินค่ารถเอาไว้
เมื่อต้นเดือนนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางของซิมบับเวออกมาเรียกร้องให้ทางการตรึงเงินเดือนและราคาสินค้าในช่วง 6 เดือนให้ได้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งกำลังทำให้เศรษฐกิจทรุดลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศที่มองไม่เห็นทางแก้ไข ยังถูกซ้ำเติมจากสถานการณ์ทางการเมืองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมิถุนายน และแม้ว่าจะมีความพยายามเจรจากันระหว่างรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านที่นำโดยมอร์แกน ซวางกิไรมาหลายครั้ง รวมทั้งอัฟริกาใต้ก็เข้าไกล่เกลี่ยแต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น การเจรจานี้เป็นความหวังสุดท้ายของนักลงทุนและประชาชนชาวซิมบับเวที่ต้องการเห็นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาโดยเร็ว เพื่อฟื้นฟูประเทศที่เห็นเศรษฐกิจดิ่งเหวตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
