เอเอฟพี - ตำรวจเมื่อวันศุกร์ (1) ตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัย "ฆ่าโดยไม่ได้เตรียมการ" ในคดีจ้วงแทง ตัดคอและคว้านเครื่องในผู้โดยสารรายหนึ่งขณะนั่งหลับบนรถบัสที่วิ่งรอบที่ราบทางตะวันตกของแคนาดา
วินซ์ เวกวาง ลี วัย 40 ปี จากเอดมอนตัน เผชิญข้อกล่าวหาฆาตกรรมแบบไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ตำรวจเผย
ตำรวจ ระบุเพียงว่า เหยื่ออายุ 22 ปี ขณะที่เพื่อนๆ เปิดเผยว่าผู้เคราะห์ร้ายคือ ทิม แมคลีน หนุ่มน้อยที่มีความสุขในความโชคดีหลังเพิ่งได้งานทำในเอดมอนตัน และกำลังเดินทางกลับบ้าน
ระหว่างปรากฎตัวต่อหน้าศาลระยะเวลาสั้นๆ ใบหน้าของลีมีรอยถลอกแต่ดูไม่สะทกสะท้าน มือขวาของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล ไม่ปริปากพูดและตอบคำถามของศาลเพียงใช่หรือไม่เท่านั้น หลายนาทีต่อมา ศาลได้เลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 5 สิงหาคม ที่คาดหมายเพื่อให้อัยการได้มีเวลาขอให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินสภาพทางจิตของผู้ถูกกล่าวหาเสียก่อน
รายงานข่าว ระบุว่า แมคลีนสวมหูฟังและกำลังนอนหลับโดยเอาหัวพิงกระจกรถ ช่วงที่คนร้ายที่ถือมีดแรมโบ้ขนาดใหญ่ได้กระหน่ำแทงอกเด็กหนุ่ม 50-60 ครั้ง ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้โดยสารและคนขับรถ รวม 37 คนที่อยู่บนรถประจำทางโดยสารเกรย์ฮาวนด์ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารจากเมืองเอดมอนตัน แคว้นอัลเบอร์ตา ไปยังเมืองวินนิเปก แคว้นมานิโตบา ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กๆ รวมอยู่ด้วยหลายคน
พ่อของเหยื่อ บอกกับสำนักข่าวซีบีซีว่า เขาได้รับข้อความมือถือจากลูกชายขณะที่รถบัสออกจากแบรนดอน สถานีสุดท้ายของการเดินทาง 600 กิโลเมตร โดยเขาถามพ่อว่าจะค้างคืนที่บ้านได้หรือไม่ ซึ่งบิดาตอบกลับไปว่า "แน่นอน"
แกร์เน็ต แคตัน พยาน เล่าว่า ผู้ต้องสงสัย ชายรูปร่างใหญ่สวมแว่นกันแดด เพิ่งขึ้นมาบนรถบัสราว 1 ชั่วโมงและทีแรกไม่ได้นั่งใกล้แมคลีน ทว่าระหว่างรถหยุด ผู้ต้องสงสัยควักบุหรี่มาสูบและย้ายไปนั่งข้างๆ แมคลีน เมื่อเห็นว่าที่นั่งตรงนั้นว่างลงพร้อมกับเก็บประเป๋าไว้ที่ช่องเก็บด้านบน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขายืนขึ้นและจ้วงแทงแมคลีน ขณะที่ผู้โดยสารต่างพากันกรีดร้องด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ ก่อนจะวิ่งหนีลงจากรถไปหลบอยู่ริมถนน ขณะที่คนขับรถปิดประตูขังผู้ก่อเหตุไว้บนรถระหว่างคอยตำรวจให้มาระงับเหตุสยองขวัญ
แคตันยังเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุสักพัก เขาและคนขับได้ย้อนกลับเข้าไปดูลาดเลาที่รถก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าผู้ก่อเหตุได้หั่นร่างเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ โดยเหยื่อไม่เพียงถูกตัดศีรษะเท่านั้น แต่ยังถูกคว้านท้องด้วย จากนั้น ชายคนก่อเหตุได้เดินไปยังด้านหน้ารถบัสอย่างใจเย็นโดยที่มือยังถือมีดกับศีรษะของผู้ตาย ก่อนจ้องมองอย่างเลือดเย็น แล้วทิ้งศีรษะของผู้ตายลงบนพื้นต่อหน้าต่อตาคนอื่นๆ
หลังได้รับแจ้ง ตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุแล้วล้อมรถโดยสารเอาไว้ ก่อนจะจับตัวคนร้ายได้หลังเผชิญหน้ากันนานเกือบ 3 ชั่วโมง หลังจากที่เขากระโดดหนีออกจากกระจกบานที่แตกของรถ โดยเวลานั้นเจ้าหน้าที่ยอมรับว่ายังไม่ทราบว่าอะไรเป็นสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ที่เกิดขึ้นเช้าตรู่ของวันศุกร์ (1) ตามเวลาเมืองไทย