เอเอฟพี – เกิดเหตุระเบิดถึง 16 ครั้งซ้อน ในเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 29 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่าร้อยคน ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 49 รายแล้ว
โฆษกตำรวจเมืองอาห์เมดาบัด กล่าวว่า ตำรวจได้รับรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 29 ราย จากเหตุระเบิดดังกล่าว ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่าร้อยคนซึ่งถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ อย่างเร่งด่วน ซึ่งหลายคนถูกโจมตีด้วยกระสุนดาวกระจาย สลักเกลียว และตลับลูกปืนที่อัดแน่นอยู่ในระเบิดซึ่งถูกผลิตมาเพื่อให้มีอานุภาพในการโจมตีสูงสุด
ด้าน นเรนทรา โมดี มุขมนตรีรัฐคุชราต ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตว่า อยู่ที่ 29 ราย ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บ 88 คน จากเหตุระเบิด 16 ครั้งซ้อน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 36 นาที มีผู้หญิงและเด็กรวมอยู่ด้วย ซึ่งระเบิดมากกว่า 4 ลูก พุ่งเป้าโจมตีไปที่โรงพยาบาล
“ดินแดนของมหาตมะ คานธี กำลังเจิ่งนองไปด้วยเลือด ซึ่งเกิดจากฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งเราไม่สามารถยกโทษให้กับการกระทำดังกล่าวได้” โมดี สมาชิกพรรคชาตินิยมฮินดูภารติยะ ชนะตะ (บีเจพี) พรรคฝ่ายขวาซึ่งปกครองรัฐคุชราตกล่าว
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ของอินเดีย ได้ออกมาประณามกลุ่มที่ก่อเหตุ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวเมืองอาห์เมดาบัดอยู่ในความสงบ
สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ของอินเดีย รายงานว่า กลุ่มอินเดียน มูจาฮีดีน ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ไม่มีชื่อเสียงมากนัก ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ เมืองอาห์เมดาบัด เป็นเมืองศูนย์กลางของพรรคฝ่ายค้านชาตินิยมฮินดู ซึ่งเมื่อปี 2002 ได้เกิดเหตุจลาจลระหว่างชาวฮินดูและมุสลิม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
ขณะที่เหตุระเบิดครั้งล่าสุดเกิดขึ้น หลังเหตุระเบิด 8 ครั้งซ้อนในเมืองบังกาลอร์ เมืองเทคโนโลยีทางตอนใต้ของอินเดียซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายเพียง 1 วัน