เอเอฟพี - กลุ่มนักธุรกิจและเจ้าของร้านอาหาร 120 ราย ในเมืองหลวงของเกาหลีใต้ วันนี้ (24) ยื่นฟ้องฝ่ายจัดชุมนุมที่สร้างความเสียหายต่อธุรกิจเรียกเงินชดเชย 1.8 ล้านดอลลาร์ (57 ล้านบาท) หลังมีการประท้วงบนท้องถนนต่อเนื่องหลายสัปดาห์ พร้อมกันนั้นได้อ้างในคำฟ้องว่ารัฐบาลเองก็ต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลวสำหรับหยุดการชุมนุม
โจทก์ในคดีแพ่งนี้ เกือบทั้งหมดเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหารในย่านใจกลางกรุงโซล บอกว่าพวกเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากธุรกิจที่ซบเซาอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากบางครั้งของการประท้วงต่อต้านน้ำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯและประเด็นอื่นๆ เกิดความรุนแรง
“คำฟ้องเรียกค่าเสียหายนี้จะส่งสารอย่างชัดเจนไปยังฝ่ายจัดการประท้วงว่า คุณมีสิทธิ์ชุมนุมกัน แต่คุณต้องถูกบังคับให้จ่ายเงินตอบแทนสำหรับความเสียหายใดๆ ก็ตามที่คุณนำมาสู่คนอื่นๆ” ลีฮุน ทนายความของกลุ่มเจ้าของกิจการร้านอาหารบอกกับเอเอฟพี
ก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มนักธุรกิจ 115 ราย ได้ยื่นฟ้องคล้ายกันนี้ เรียกค่าเสียหาย 1.7 ล้านดอลลาร์
ประชาชนนับแสนชุมนุมกันเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ต่อต้านการกลับมาเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯซึ่งจุดประกายความกลัวต่อเชื้อวัวบ้า พวกเขาร่วมใจกันจุดเทียนหลังออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในกรุงโซล
บางครั้งการประท้วงได้เกิดเหตุรุนแรง ผู้ชุมนุมถือท่อเหล็กแกว่งไปแกว่งมา และทำลายรถบัสตำรวจ ขณะที่ตำรวจตอบโต้ด้วยการใช้น้ำฉีดเข้าสลายการชุมนุม
การชุมชุมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากได้ยุติลงนับตั้งแต่สหรัฐฯได้รับประกันมาตรการด้านสุขภาพเป็นกรณีพิเศษ และเนื้อวัวจากวอชิงตันได้วางจำหน่ายแล้วในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า การชุมนุมใหญ่จะหมดไป แต่กลุ่มผู้ประท้วงต้านนำเข้าเนื้อวัวหัวรุนแรงยังคงชุมนุมกันอย่างไม่ลดละ