ไฟแนนเชียลไทมส์/เอเจนซี - เตือนบรรดาผู้บริโภคทั่วโลกกำลังจะเผชิญราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นไปอีก หลังจากทางการสหรัฐฯ ออกมาแถลงว่า พื้นที่การเกษตรที่ดีที่สุดของอเมริกาจำนวนมาก กำลังจมอยู่ใต้น้ำจากเหตุอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี
เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ และบรรดาผู้ค้าโภคภัณฑ์พูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าความเสียหายต่อผลผลิตการเกษตรจากน้ำท่วมในมลรัฐไอโอวา ซึ่งเป็นมลรัฐที่ปลูกข้าวโพดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ จะฉุดให้ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองในโลกนี้ทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้พุ่งขึ้นไปแล้วในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา
สหรัฐฯ เป็นผู้ส่งออกข้าวโพดราว 54% ของโลก, ส่งออกถั่วเหลือง 36% และข้าวสาลี 23% ดังนั้นสถานการณ์ไร่นาธัญพืชในอเมริกาล่มเพราะน้ำท่วม จะส่งผลต่อราคาอาหารในตลาดโลกไปด้วย และอาจทำให้สถานการณ์ประท้วงรุนแรงของกลุ่มคนยากจน จากการขาดแคลนอาหารหรือไม่สามารถจะซื้อหาอาหารมาเลี้ยงปากท้อง ซึ่งกระจายไปในประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีก
เมื่อวันอังคาร ราคาอนุพันธ์ฟิวเจอร์สของข้าวโพด ที่ตลาดชิคาโกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอยู่สูงกว่า 8 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ท่ามกลางความกลัวที่ว่าพื้นที่ปลูกข้าวโพดราว 5 ล้านเอเคอร์จะได้รับความเสียหาย ในขณะที่ราคาถั่วเหลืองก็แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ที่ 15.93 ดอลลาร์ต่อบุชเชลเช่นกัน
ทอม เจนนิงส์ รักษาการณ์ผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรมลรัฐอิลลินอยส์ กล่าวว่า "ราคาข้าวโพดและถั่วนานาชนิดจะแพงขึ้นไปอีก หากว่าผลผลิตข้าวโพดยังคงเสียหายต่อไป ราคาก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ"
ทั้งข้าวโพดและถั่วเหลืองเป็นธัญพืชซึ่งเป็นอาหารหลักสำหรับสัตว์เศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัวและไก่ เมื่ออาหารสัตว์มีราคาพุ่งขึ้นก็ทำให้ราคาของเนื้อสัตว์แพงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นในวันอังคาร (17) ราคาปศุสัตว์เป็นๆ ในสหรัฐฯ จึงพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี
เจนนิงส์ กล่าวว่า ผลกระทบของฝนที่ตกหนักนั้น "สาหัสยิ่ง" เขาบอกว่า "จากรายงานฉุกเฉินที่ผมมีอยู่ในมือ สภาพการณ์ตอนนี้ยังดีกว่าปี 1993 แต่ก็ต้องดูอีกทีหนึ่งว่าสถานการณ์เมื่อน้ำฝนไหลลงสู่แม่น้ำแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป" ทั้งนี้ เมื่อปี 1993 แม่น้ำมิสซิสซิปปี้ไหลล้นทะลักออกจากระบบคันกั้นน้ำ และทำให้พื้นที่เพาะปลูกมากกว่าหนึ่งล้านเอเคอร์จมอยู่ใต้น้ำ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์
ในขณะที่ ลิวอิส แฮจดอร์น แห่งเจพีมอร์แกน ในชิคาโก กล่าวว่า มูลค่าความเสียหายครั้งนี้ก็น่าจะสูงเช่นเดียวกัน "ความเสี่ยงของราคาสินค้าเกษตรที่จะคงราคาในระดับสูงต่อไปนั้น จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และอาจทำให้เกิดความจำเป็นในการปันส่วนสินค้าเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ เพราะว่าปริมาณผลผลิตจะน้อยลงมาก"
ส่วนเกร๊ก แวกเนอร์แห่งเอจี รีซอร์สในชิคาโก เห็นว่า ในช่วงนี้ราคาข้าวโพดอาจจะไม่เพิ่มขึ้นอีกเพราะต้องใช้เวลาในการประเมินผลกระทบจากภูมิอากาศ แต่เขาก็เตือนว่ามีโอกาสสูงมากที่ราคาจะทะยานขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงต่อไป
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ รายงานว่า หลังจากที่พื้นที่ไร่ข้าวโพดจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับฝนตกหนักและอุณหภูมิต่ำมาหลายสัปดาห์ เวลานี้ผลผลิตข้าวโพดของประเทศเพียง 57% เท่านั้นที่ยังดีหรืออยู่ในสภาพดีเยี่ยม โดยคำนวณเอาจากจำนวนที่เข้าลงทะเบียนเอาไว้ ซึ่งนับน้อยลงมากจากปีที่แล้ว ที่มีมาจดทะเบียนกันถึง 70%
บรรดาชาวไร่ในรัฐอิลลินอยส์ต่างพากันบ่นว่าอากาศที่เลวร้ายทำให้การเพาะปลูกต้องร่นออกไปอีกถึง 5 สัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลให้ข้าวโพดและถั่วเหลืองมีผลผลิตน้อยลงมาก ชาวไร่บางคนถึงกับคาดว่าผลผลิตข้าวโพดของตนเองอาจจะลดลงถึง 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ผู้ค้าสินค้าเกษตร บอกว่า โดยปกติเมื่อถึงช่วงนี้ของปี ต้นข้าวโพดในไอโอวาและอิลลินอยส์ตอนนี้น่าจะมีความสูงระดับเอวแล้ว แต่ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องและอากาศเย็นผิดปกติทำให้ต้นสูงแค่เข่าเท่านั้น
พวกเขายังบอกอีกว่าปุ๋ยไนโตรเจน ซึ่งเร่งการเติบโตและผลผลิตของข้าวโพด จะถูกน้ำฝนชะออกไป และเนื่องจากปุ๋ยมีราคาแพงทำให้ชาวไร่จำนวนมากไม่คิดจะทำนุบำรุงต้นข้าวโพดต่อแม้ว่าน้ำแห้งแล้วและปล่อยให้มันแห้งเหลือง จากนั้นก็หันไปเรียกเงินชดเชยจากกรมธรรม์ประกันความเสียหายพืชผลการเกษตรที่ทำไว้แทน นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลผลิตลดลงไปจากเดิม
ในขณะเดียวกันทางการสหรัฐฯ ก็ได้ระดมทหารจากกองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งชาติและอาสาสมัครเพื่อทำคันกั้นน้ำโดยใช้ถุงทรายทั่วทั้งเขตมิดเวสท์ ซึ่งนอกจากไอโอวาและอิลลินอยส์แล้ว อินดีแอนา,แคนซัส,มิสซูรี,มินนิโซตา และวิสคอนซิน ก็ถูกกระทบจากน้ำท่วมรุนแรงด้วยเช่นกัน