เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อคืนวันจันทร์ (16) ดีดกลับขึ้นไปอย่างแรงจนสร้างสถิติสูงสุดใหม่อีกหนหนึ่งที่ระดับ 139.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้วยข้ออ้างดอลลาร์อ่อนตัว หลังจากช่วงกลางวันราคาทำท่าอ่อนตัวลงมา สืบเนื่องจากรายงานข่าวที่ว่าซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการผลิตจนอยู่อยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบเวลาร่วม 30 ปี
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ เพื่อการส่งมอบเดือนกรกฎาคม ระหว่างการซื้อขายในช่วงใกล้ๆ บ่ายโมงตามเวลาจีเอ็มที (เวลามาตรฐานกรีนิช ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 7 ชั่วโมง) มีราคาทะยานไปจนถึงระดับ 139.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำลายสถิติสูงสุดเดิม ณ ระดับ 139.12 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้ในวันที่ 6 เดือนนี้ จากนั้นจึงถอยลงมาอยู่แถวๆ 138.60 ดอลลาร์ ในเวลา 13.17 จีเอ็มที (20.17 น.เวลาเมืองไทย) ซึ่งก็ยังสูงกว่าราคาปิดวันศุกร์(13)อยู่ 3.74 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของทะเลเหนือ เพื่อการส่งมอบเดือนสิงหาคม ก็มีการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ณ ระดับ 139.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ลอนดอนวานนี้เช่นกัน ก่อนจะถอยลงมาอยู่แถวๆ 138.21 ดอลลาร์ สูงขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ 3.10 ดอลลาร์
พวกเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์บางคนพยายามอธิบายการพุ่งพรวดอย่างฉับพลันของราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้ว่า เป็นเพราะค่าเงินดอลลาร์ทรุดลงมา ภายหลังมีการเผยแพร่ข้อมูลตัวเลขจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การผลิตทางอุตสาหกรรมในมลรัฐนิวยอร์กหดตัวลงในเดือนมิถุนายน นับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 เดือน
ก่อนหน้านั้น ในช่วงการซื้อขายของแถบเอเชียตลอดวันจันทร์ ราคาน้ำมันดิบโลกยังอยู่ในแดนลบโดยตลอด แม้ย่างเข้าช่วงการซื้อขายของยุโรปแล้ว ไลต์สวีตครูดก็ยังไหลลงจนอยู่ต่ำกว่าราคาปิดวันศุกร์ 1.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1%
เหตุผลสำคัญของการอ่อนตัวเช่นนี้ มาจากการที่เลขาธิการสหประชาชาติ บันคีมุน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวขณะอยู่บนเครื่องบินในเที่ยวบินจากนครเจดดาห์, ซาอุดีอาระเบีย ไปยังกรุงลอนดอน อังกฤษ ว่า เขาเพิ่งได้รับโทรศัพท์จาก อาลี อัลนูไอมี รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบีย แจ้งว่า ทางการริยาด จะผลิตน้ำมันอีก 200,000 บาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) ในเดือนกรกฎาคม เป็นการเพิ่มเติมจากที่ได้เพิ่มการผลิต 300,000 บีพีดีตั้งแต่เดือนมิถุนายน
บัน อธิบายว่า รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีต้องการชี้แจงรายงานที่ปรากฏทางสื่อหลายแห่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าทางการริยาดจะเพิ่มการผลิตในเดือนกรกฎาคมขึ้นราวครึ่งล้านบาร์เรล และทำให้ผลผลิตทั้งหมดของประเทศนี้อยู่ที่ 10 ล้านบีพีดี
"ทางซาอุดีได้เพิ่มการผลิตไปแล้วในเดือนมิถุนายน 300,000 บาร์เรล สำหรับเดือนกรกฎาคม พวกเขาจึงจะเพิ่มอีก 200,000 บาร์เรล เป็นการตอบสนองเสียงเรียกร้องของบรรดาลูกค้า" บันอ้างคำสนทนาของเขากับอัลนูไอมี
จากตัวเลขที่บันระบุ หมายความว่าเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม ซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมถึงราวครึ่งล้านบีพีดีอยู่นั่นเอง หรือเท่ากับกว่า 6% และก็จะเป็นระดับการผลิตประจำเดือนสูงที่สุดนับแต่เดือนสิงหาคม 1981 ทั้งนี้ตามข้อมูลตัวเลขของรัฐบาลสหรัฐฯ
แต่บันก็อ้างคำพูดของอัลนูไอมีด้วยที่กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียรู้สึกว่าทางฝ่ายประเทศผู้บริโภคน้ำมัน ก็ควรที่จะแสดงบทบาทของพวกเขาในการทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ ด้วยการลดภาษีระดับชาติลงมา และต่อสู้กับพวกนักเก็งกำไร
เลขาธิการยูเอ็นกล่าวต่อไปว่า นี่เองคือเหตุผลที่ซาอุดีอาระเบียกำลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงขึ้นระหว่างชาติผู้ผลิตและชาติผู้บริโภคน้ำมัน ณ นครเจดดาห์ ในวันที่ 22 เดือนนี้
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ เพื่อการส่งมอบเดือนกรกฎาคม ระหว่างการซื้อขายในช่วงใกล้ๆ บ่ายโมงตามเวลาจีเอ็มที (เวลามาตรฐานกรีนิช ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 7 ชั่วโมง) มีราคาทะยานไปจนถึงระดับ 139.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำลายสถิติสูงสุดเดิม ณ ระดับ 139.12 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้ในวันที่ 6 เดือนนี้ จากนั้นจึงถอยลงมาอยู่แถวๆ 138.60 ดอลลาร์ ในเวลา 13.17 จีเอ็มที (20.17 น.เวลาเมืองไทย) ซึ่งก็ยังสูงกว่าราคาปิดวันศุกร์(13)อยู่ 3.74 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของทะเลเหนือ เพื่อการส่งมอบเดือนสิงหาคม ก็มีการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ณ ระดับ 139.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ลอนดอนวานนี้เช่นกัน ก่อนจะถอยลงมาอยู่แถวๆ 138.21 ดอลลาร์ สูงขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ 3.10 ดอลลาร์
พวกเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์บางคนพยายามอธิบายการพุ่งพรวดอย่างฉับพลันของราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้ว่า เป็นเพราะค่าเงินดอลลาร์ทรุดลงมา ภายหลังมีการเผยแพร่ข้อมูลตัวเลขจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การผลิตทางอุตสาหกรรมในมลรัฐนิวยอร์กหดตัวลงในเดือนมิถุนายน นับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 เดือน
ก่อนหน้านั้น ในช่วงการซื้อขายของแถบเอเชียตลอดวันจันทร์ ราคาน้ำมันดิบโลกยังอยู่ในแดนลบโดยตลอด แม้ย่างเข้าช่วงการซื้อขายของยุโรปแล้ว ไลต์สวีตครูดก็ยังไหลลงจนอยู่ต่ำกว่าราคาปิดวันศุกร์ 1.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1%
เหตุผลสำคัญของการอ่อนตัวเช่นนี้ มาจากการที่เลขาธิการสหประชาชาติ บันคีมุน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวขณะอยู่บนเครื่องบินในเที่ยวบินจากนครเจดดาห์, ซาอุดีอาระเบีย ไปยังกรุงลอนดอน อังกฤษ ว่า เขาเพิ่งได้รับโทรศัพท์จาก อาลี อัลนูไอมี รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบีย แจ้งว่า ทางการริยาด จะผลิตน้ำมันอีก 200,000 บาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) ในเดือนกรกฎาคม เป็นการเพิ่มเติมจากที่ได้เพิ่มการผลิต 300,000 บีพีดีตั้งแต่เดือนมิถุนายน
บัน อธิบายว่า รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีต้องการชี้แจงรายงานที่ปรากฏทางสื่อหลายแห่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าทางการริยาดจะเพิ่มการผลิตในเดือนกรกฎาคมขึ้นราวครึ่งล้านบาร์เรล และทำให้ผลผลิตทั้งหมดของประเทศนี้อยู่ที่ 10 ล้านบีพีดี
"ทางซาอุดีได้เพิ่มการผลิตไปแล้วในเดือนมิถุนายน 300,000 บาร์เรล สำหรับเดือนกรกฎาคม พวกเขาจึงจะเพิ่มอีก 200,000 บาร์เรล เป็นการตอบสนองเสียงเรียกร้องของบรรดาลูกค้า" บันอ้างคำสนทนาของเขากับอัลนูไอมี
จากตัวเลขที่บันระบุ หมายความว่าเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม ซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมถึงราวครึ่งล้านบีพีดีอยู่นั่นเอง หรือเท่ากับกว่า 6% และก็จะเป็นระดับการผลิตประจำเดือนสูงที่สุดนับแต่เดือนสิงหาคม 1981 ทั้งนี้ตามข้อมูลตัวเลขของรัฐบาลสหรัฐฯ
แต่บันก็อ้างคำพูดของอัลนูไอมีด้วยที่กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียรู้สึกว่าทางฝ่ายประเทศผู้บริโภคน้ำมัน ก็ควรที่จะแสดงบทบาทของพวกเขาในการทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ ด้วยการลดภาษีระดับชาติลงมา และต่อสู้กับพวกนักเก็งกำไร
เลขาธิการยูเอ็นกล่าวต่อไปว่า นี่เองคือเหตุผลที่ซาอุดีอาระเบียกำลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงขึ้นระหว่างชาติผู้ผลิตและชาติผู้บริโภคน้ำมัน ณ นครเจดดาห์ ในวันที่ 22 เดือนนี้